Sunday, March 28, 2010

JRP วันที่ 1 : ปฐมนิเทศน์

อย่างที่เพื่อนๆรู้ เราไปลงเรียนอบรมบุคลิกภาพที่ John Robert Power เมื่อวานเป็นวันปฐมนิเทศน์ ก็เลยจะมาเล่าสู่กันฟังว่าเป็นยังไงมั่ง (ฟังดูเหมือนเพื่อนเยอะมาก จริงๆเพื่อนที่เข้ามาอ่าน blog นี้ มีไม่กี่คน อิอิ)



ก่อนวันปฐมนิเทศน์น่ะ เราถามพนักงานเเล้วว่า ต้องเเต่งตัวยังไง เค้าบอกว่า เเต่งตัวสุภาพ ตามสมัยนิยม งดใส่รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้นเสื้อแขนกุดมาเรียน เเต่ใส่ชุดแซกได้ เราก็ อืม...เเต่งตัวชุดทำงานของเรา เพราะเค้าบอกว่าสุภาพตามสมัยนิยมนี่หว่า

เราใส่แบบนี้ (นี่จากในห้องเรียนนะ)


เสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าส้นสูงสีดำ พันผ้าพันคอสีดำ กะพกเเจ๊กเก็ตสีดำมาเผื่อหนาว เเต่มาถึงเจอเเบบว่าเสื้อยืดกางเกงยีน (ผู้ชาย) เสื้อตัวยาวกางเกงขาสั้น (ผู้หญิง) เจอน้องคนนึงเสื้อยืดกะแจ๊กเก็ตยีนออกเเนวเซอร์ๆ) เเต่เราคิดเอาเองว่าคนพวกนี้คงไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่ล่ะมั้งว่าต้องเเต่งตัวยังไง หรือไม่ก็ไม่เคยไปอบรมสัมมนาที่ไหน

พอนั่งคุยกัน ก็เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆ บางคนทำธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน เเม่สมัครให้เรียนก็มาเรียนไม่รู้เรื่องอะไร บางคนก็เป็นนักศึกษาเพิ่งจบ เเต่ที่เเน่ๆ ทุกคนลูกคนรวยทั้งนั้น เพราะจากที่คุย มีธุรกิจส่วนตัว ต้องบริหารงานที่บ้าน ก็เลยให้มาเรียน จบโรงเรียนคุณหนูๆมา นามสกุลอยู่ในเเวดวงสังคม โอ๊ย มากมาย อย่างว่าเเหละค่าเรียนมันแพง แถมเรื่องบุคลิกภาพ มารยาท การเข้าสังคม คนที่คิดว่าจำเป็นก็จะเป็นคนในอีกระดับหนึ่ง

เข้าเรื่องๆ ตอนปฐมนิเทศน์เจ้าหน้าที่ก็พูดเรื่องกฎระเบียบ ขาด ลา มาสาย การเเต่งตัว จริงๆในคู่มือบอกว่าเสื้อยืดก็ให้งดนะ เเต่ตอนเค้าพูดน่ะ ก็พูดเเค่ ขาสั้น แขนกุด รองเท้าเเตะอ่ะ ตกลงเสื้อยืดนี่อนุโลมใช่มั้ยเนี่ย (ตอนเเรกเราก็คิดว่าเราคงเเต่งตัวไม่เหมาะสม เเต่เค้าไม่ได้พูดถึงเสื้อยืดเลยอ่ะ) กางเกงยีนถ้าจะใส่ก็ต้องงดสีอ่อน หรือยีนขาดๆนะ

วันนี้เค้าพูดเรื่องจิตวิทยาบุคลิกภาพ อาจารย์คือ อ.ปรัชญา ปิยมโนธรรม (เขียนไงไม่รู้) คุยกะฟ้า ฟ้าก็รู้จัก แถมเนื้อหาที่เรียนฟ้าก็รู้เรื่อง (ก็เรียนจิตวิทยานี่หว่า) เพื่อนฟ้ายังเปรยๆเลยว่า ไปรับจ๊อบเเบบนี้มั่งน่าจะดี

ก็เรียนพวกหลักของ id ego superego แหละ นอกนั้นก็เป็นกิจกรรม ให้เล่าพวกความประทับใจ เรื่องเลวร้าย สิ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ให้เพื่อนๆฟัง เเล้วให้เพื่อนๆบอกว่าเราเป็นคนยังไง ให้สะกดจิตตัวเอง โดยเขียนจุดมุ่งหมายในอีก 5 ปี ว่าเราอยากจะประสบความสำเร็จเรื่องไหน (ที่จะเรียนที่นี่นะ รูปกายเสื้อผ้าหน้าผม ท่าทีอิริยาบท เจตคติการมองโลกและปรับตัวทางความคิด อรมณ์ พฤติกรรม และ เรื่องสุดท้าย การสื่อสารเเละทักษะทางสังคม) แล้วก็พูดให้เพื่อนฟังว่าเรามองเห็นเราในอนาคตอีกห้าปีนั้นน่ะเป็นยังไง ประมาณนั้น

ก็ดี สนุกดีนะ รอดูว่าวันอื่นๆจะเป็นยังไง ชอบที่นี่อย่างคือ ตารางเรียนเเล้วเเต่เรา จะมาวันไหนบอกเค้า เค้าจะลงวิชาให้ ดูไฮโซดี (อย่างว่าค่าเรียนแพง)

Thursday, March 25, 2010

อยากสวย ดูดี ต้องอดทน

ร้อนนนนนนนน อากาศร้อนมาก ชุดประจำตัวของเราเวลาหน้าร้อนคือ เสื้อกล้าม แต่...ตอนนี้มีความจำเป็นบางอย่างทำให้ใส่เสื้อกล้ามไม่ได้ เเม้กระทั่งเสื้อเเขนสั้นก็ไม่ได้ ต้องใส่เเขนยาวตลอด เฮ้อออออออ

อดทนไว้ เเค่เดือนเดียวเอง เดี๋ยวก็ใส่ได้เเล้ว อยากสวยต้องอดทน และต้องยอมร้อน ฮืออออออ

Monday, March 22, 2010

กล้องใหม่ ?

น้องโซนี่ อาการร่อแร่เจียนตาย เราเลยต้องเล็งหากล้องใหม่ จะซื้อ canon 500D เเต่พัฒน์ไม่อยากให้ใช้ บอกให้ใช้ canon G11 หรือพวกกล้องคอมเเพคที่หรูๆหน่อยก็พอ อืม....เเต่เพิ่มเงินไม่มากมันก็ได้ DSLR แล้วอ่ะ อยากได้ๆ
เเต่ก็ไม่อยากทำให้พัฒน์เสียน้ำใจ เพราะเค้าชอบบอกเสมอๆว่าเราดื้อ บอกไรไม่เคยฟัง ทำอะไรก็ไม่ค่อยบอก ไม่ค่อยปรึกษา เง้อ....เอาไงดีฟะ


คนเราควรจะแคร์ความรู้สึกของตัวเองที่สุด จริงมั้ย งึมงัมๆ


รูปนี้เเต่งเอง ลองเเต่งเเบบโลโม่ดู ชอบบบบบบ (เเต่คงไม่ซื้อกล้องโลโม่ รู้สึกว่าไร้สาระไปนิด แต่งเองในคอมก็ได้)

Sunday, March 21, 2010

shopping อีกแล้ว

เหอๆๆๆ เซ็นทรัลลาดพร้าวเซลล์กระหน่ำเพราะกำลังจะปิดปรับปรุง 6 เดือน เรามี cash voucher ที่ได้จากชอปปิ้งคราวก่อน 1,000 บาท ได้ Gift voucher จากจับฉลากตอนกีฬาสีมาอีก 200 บาท รวมเป็น 1,200 บาท เอาไปซื้อไรดีเนี่ย

ห้างมันจะปิดเลยต้องรีบไปชอป อิอิ ของที่ได้มาก็.....

กางเกงยีนขายาวสีแดงแปร๊ดดดดดด ของฮาร่า (รูปค่อนข้างจะเห่ยเพราะถ่ายจากบีบี)




หมวกสีแดงของจีออดาโน่ เอามาทดเเทนน้องอาราเล่ที่หายไป



ซื้อมาก็ไม่รู้จักคิด ช่วงนี้มันมี Red shirt นี่หว่า เเล้วตูจะได้หยิบมาใส่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย เซ็งว่ะ

อยากใส่เร็วๆอ่ะ

Monday, March 15, 2010

อารมณ์ดี

ช่วงนี้ชีวิต Happy มีความสุข อิอิ

ลองคุยกะพัฒน์เรื่องคุณเเม่ พัฒน์บอกว่าอย่าไปสนใจมาก แม่เค้าบางทีคิดเเปลกๆ หรือพูดจาแปลกๆ (ไม่ได้นินทาคุณเเม่นะ คือเราคุยเพราะอยากเข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด) เเล้วก็คุยโน่นนี่กัน ก็ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะเลยล่ะ

แถมวันนี้ก็มีอะไรดีๆ ช่วงนี้ช่างสุขใจจริงๆ อิอิ

Wednesday, March 10, 2010

shopping ไม่เลิก

สมัยเรียนป.โท กิจกรรมยามว่างอย่างนึงของเราคือ....ชอปปิ้งออนไลน์ สมัยนั้นน่ะ ติดการซื้อของในอินเตอร์เน็ตมาก (เเต่เคยซื้อเฉพาะของในไทยนะ) หลังจากนั้นก็ห่างหายไปนานมากๆ เพราะพอทำงาน ...พูดง่ายๆว่าเริ่มมีตังก์น่ะเเหละ
พอเริ่มมีตังก์เราก็ชอบจะไปซื้อของตามห้างมากกว่า เพราะได้ลอง ได้เห็น ได้จับ ไม่ต้องมารอลุ้นว่าจะเวิร์กรึป่าว

เเต่อาทิตย์นี้ไม่รู้เป็นไง หลังจากเดือนที่เเล้วเป็น shopaholic ไป เดือนนี้ก็ยังไม่เลิก อาทิตย์ที่เเล้ว ซื้อของในเน็ตไปสามอย่าง เสื้อ กระเป๋า รองเท้า เง้อ........

เเต่ชอบรองเท้ามากกกกกกกก เลยอยากเอามาลงในนี้ เราไปซื้อรองเท้าบู้ทมือสองมา ทดเเทนคู่เก่าที่หนังมันพังไปแล้ว จริงๆเราอยากได้บู้ทสีดำ เเต่มันเป็นของมือสองนี่เนอะ ไม่มีให้เลือก เเล้วเเต่ของจะมี

เป็นบู้ทสีนำตาล สูงสามนิ้ว น่ารักมากๆ สภาพใหม่เอี่ยมเลย พื้นไม่สึก (ไม่รู้ว่าเเม่ค้าเค้าเปลี่ยนพื้นมารึเปล่า) คู่ละ 400 บาทเอง

รูปจากในเว็บ (เราซื้อจากร้านตามชื่อนั่นเเหละ)



อันนี้เราใส่ เเบบว่าเห่ออ่ะ น่ารัก (ชุดอาจไม่เข้าเท่าไหร่ เพราะเเกะกล่องพัสดุปุ๊ป ลองปั๊ป)








อันนี้เสื้อที่ซื้อมาจากอีกร้านนึง ชอบเหมือนกัน ผ้าหนาดี ใส่ไปเที่ยวยุโรปเดือนหน้าได้เลย



อีก 20 วันที่เหลือ จะชอปอะไรอีกมั้ยเนี่ย

Saturday, March 6, 2010

my new look

เปลี่ยนลุคใหม่อีกเเล้ววววววว หุหุ น่ารักป่าวล่ะ




ผมยาวสลวยสวยเก๋ จริงๆแล้วมันคือวิก ถอยวิกมาใส่เล่นขำๆ แต่ใส่เเล้วน่ารักดี เพื่อนบอกว่าดูเหมือนนักศึกษาเลยรูปนี้ (เพราะเสื้อขาว เเละทรงผมยาวตรงเหมือนนักศึกษา)

Monday, March 1, 2010

ผู้ใหญ่เข้าใจยาก ว่ามั้ย

จริงๆว่าไม่อยากจะพูดเรื่องเเบบนี้ในบล๊อกแฮะ เเต่ว่ารู้สึกอยากระบายออกมาอ่ะ

เราอ่านเเม่แฟนเราไม่ออกอ่ะ เราไม่รู้ว่าเพราะเค้าไม่ใช่คนไทย การกระทำ การแสดงออกก็เลยแปลกๆ หรือจริงๆเเม่คนอื่นเค้าก็เป็นกันอย่างงี้เเหละก็ไม่รู้

เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเราไปช่วยพัฒน์ทำงาน ขอเล่าหน่อย คือ เค้าน่ะ หุ้นกับคนในมูลนิธิเปิดร้านขายอาหารเจที่เชียงใหม่ โดยที่ชั้นล่างจะเป็นร้านอาหารเเละชั้นบนห็จะเป็นสำนักงานของมูลนิธิประจำภาคเหนือ เมื่อวานเป็นวันเปิดร้าน เค้าอยากให้เราไป ชาวมูลนิธิที่เชียงใหม่ก็อยากจะเจอเรากันทั้งนั้น (อันนี้เว่อไปนิด เเต่ก็หลายคนอ่ะบอกว่าอยากเจอ) เราก็เลยไป

และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เราอยู่กะแม่พัฒน์นานๆ แบบสองต่อสอง (วิดวิ้ว......) ทำให้...เราโดนคำถามมากมาย เวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้เราจะกดดันเล็กน้อยอ่ะ เพราะเรากลัวว่าจะพูดอะไรไม่ดีออกไป

ทุกครั้งที่อยู่กันสองคน เเม่จะถามว่า รับได้เหรอ ที่มีแฟนเป็นแบบนี้ (มาทำงานมูลนิธิ ไม่ค่อยอยู่บ้าน เดินทางตลอด เวลาไม่มีให้) คือ.... ถ้าถามเเค่ครั้งเดียวเราก็ไม่งงหรอกนะ เเต่นี่ถามทุกครั้งเลยอ่ะ ซึ่งเราก็บอกไปว่า เราเฉยๆ เรารับได้ ไม่เห็นเป็นไร ก็เเค่เหมือนเค้าไปทำงานต่างจังหวัด เเล้วก็ยิ้มๆ ก่อนหน้านี้เค้าก็ถามเราเรื่องเเต่งงาน ว่าคบกันมาตั้งนานเมื่อไหร่จะแต่ง พอเราบอกว่าพัฒน์เค้ายังไม่อยากเเต่ง เเม่เค้าก็ถามเราว่า เเล้วเรารอได้เหรอ

เราก็ดีใจนะที่เค้าถามเราเเบบนี้อ่ะ เเต่พอบ่อยๆ เราก็เริ่มรู้สึกว่า หรือเค้ามีเจตนาแอบแฝงหว่า แบบว่าให้เรารู้สึกว่าอย่าทนเลย เสียเวลา (เราเริ่มฟุ้งซ่านเเล้วอ่ะ)

ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์เค้าก็ถามเราเเบบเดิม ว่ารับได้เหรอ เราก็บอกว่ารับได้ เราไม่มีปัญหา เเต่เราอยากให้เเต่งงานมากกว่าจะอยู่ในสภาพแบบนี้ เพราะอยู่อย่างงี้มันก็ดูไม่รู้ว่าจะเค้าจะเอายังไง บางทีเราก็กลัวนะว่าเค้าทำงานเเบบนี้ จะเจอคนที่ทำงานด้วยกัน สนิทกันมากๆ เเล้วจะกลายเป็นผูกพันไป (เพราะงานมูลนิธิมันจะต้องอยู่ด้วยกัน ตลอดไง บางทีไปต่างจังหวัด ไปอะไร ต้องลำบากต้องเหนื่อยด้วยกัน) เเม่พํฒน์ก็บอกว่าก็ไม่มีใครหรอก ก็มีเเต่คนนั้นน่ะเเหละ (คนที่เราสองคนรู้กันว่าใคร) คือเป็นน้องในมูลนิธิอ่ะที่เราเคยบ่นไปตอนอยู่ใน space ว่ามาจุ๊กๆจิ๊กๆ เค้าทำงานด้วยกันตลอด เหมือนเป็นทีมเดียวกันน่ะ จะเจอกันทุกงาน เเล้วเป็นพ่องานเเม่งานด้วยกันตลอด เเม่เค้าบอกว่าเคยคุยกะพัฒน์เหมือนกันว่าระวังหน่อยนะ เรามีแฟนเเล้ว อย่าไปสนิทมากมันไม่ดี บลาๆๆ เเต่พัฒน์ก็บอกเเม่เค้าว่า ไม่ได้คิดอะไร เค้าไม่ได้ชอบน้องคนนั้น เเม่พัฒน์ยังเคยคุยกะน้องคนนั้นด้วยว่าเเม่เห็นเราเหมือนลูกสาว ก็ไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้ผิดหวัง เค้าคบกันมาตั้งนานเเล้ว เเล้วไม่ใช่ประเภทเจ้าชู้เปลี่ยนสาวบ่อย หรือควงใครประเดี๋ยวประด๋าวหรอก เค้าคงไม่เลิกกันง่ายๆหรอก เค้าไม่ชอบเราอยู่ไปก็เสียเวลา เสียใจด้วย (เราฟังเเล้วเราก็กะลังงงๆ ว่าตกลงน้องเค้าชอบเเฟนเราเหรอฟะ เเม่พูดเหมือนเค้าเเอบชอบเเฟนเราเลยอ่ะ)

คนในมูลนิธิทุกคนก็รู้่ว่าพัฒน์กะบุ๋นเป็นแฟนกัน พัฒน์ก็บอกทุกคนว่ามีเเฟนเเล้ว เเละหลายๆคนก็เคยเจอเรา (เพราะถ้ามีโอกาสเราก็ไปช่วยตลอดไง) ผู้ใหญ่หลายคนก็มาพูดให้เเม่ฟังนะ เรื่องสองคนนั้น (พัฒน์กะน้องคนนั้น) เเต่เค้าก็รู้ว่าพัฒน์มีเเฟนเเล้ว ไม่มีอะไรหรอก (ยิ่งฟังก็ยิ่ง...ตกลงมันเเอบชอบแฟนตูป่าววะ ยิ่งฟังเเม่ก็ยิ่งงง) เเต่เเม่บอกเลยว่า พัฒน์เค้าไม่มีใครนะ เค้าไม่ใช่คนเจ้าชู้ที่ผ่านมาเค้าก็มีบุ๋นคนเดียว อืม......

จากนั้นก็คุยสัพเพเหระ เรื่องอาม่า เรื่องบ้าน เรื่องมาช่วยงานมูลนิธิ โน่นนี่นั่น สุดท้ายคุยไปคุยมา แม่บอกว่า ยังไงก็ถ้ามีอะไรที่ดีกว่าก็ลองดูนะ ........ (เราจำคำพูด ที่เเน่ชัดไม่ได้ เเต่อารมณ์ประมาณนี้) เราก็เลยอึ้งๆ ว่าเอ....หรือที่เเม่พูดมาทุกครั้ง คือ ต้องการจะสื่อว่า อย่าทนเลย รับได้เหรอ แฟนไม่มีเวลาให้ ไปซะเถอะ อะไรแบบนี้ฟะเนี่ย (เฮ้อ....ฟุ้งซ่านว่ะ ไม่เข้าใจว่าเค้าต้องการจะบอกอะไรเรา)

แถมตอนเเม่จะกลับ แม่ให้เราเงินเรามาอีก เค้าบอกว่าค่าเดินทางของเรา (มาเชียงใหม่ ค่าใช้จ่ายสูงอ่ะ) เราก็ไม่เอา ยื้อกันอยู่แป๊ปนึง เราก็รับมาตามมารยาท (ก็เค้าให้มานี่) เเล้วเเม่เค้าก็บอกว่า รับไปเถอะ คราวหน้าจะได้มาช่วยกันอีก ฟังเเล้วงงป่ะ ถ้าเป็นคนไทยอ่ะ พูดอย่างงี้คราวหน้าจะไม่กล้ามาอีกนะ เหมือนกับว่ามาอีกเค้าก็ให้เงินอีก เเต่พอเเม่เค้าไม่ใช่คนไทย เราก็เลยตีความหมายไม่ออกว่า อยากให้มาเเต่ไม่อยากให้เราต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่าย หรือว่าจริงๆเเล้วไม่อยากให้มา งงอ่ะ


ป.ล. เเต่คนในมูลิธิคนนึง เค้าคุยกับเรา เเล้วบอกว่าคู่เราน่ารักมากเลย เค้าเห็นเเล้วเค้ารู้เลยว่าพัฒน์รักเรามาก คอยดูเเลเทคเเคร์ตลอด นั่งๆทำงานก็เอาน้ำมาให้ คอยมาถามว่าเหนื่อยมั้ย มาจับเสื้อให้ นวดมือให้อะไรอย่างงี้
เราก็รู้นะว่าเค้ารักเรามาก (ฟังดูน้ำเน่ามะ ความรักมองไม่เห็นด้วยตา เเต่รู้สึกได้ด้วยใจ ฮิ้วววววว) เเต่เวลาเรารู้สึกเองว่าเค้ารัก กับที่คนอื่นเค้าสังเกตเราสองคนเเล้วมาบอกแบบนี้เนี่ย ฟังเเล้วมันต่างกันมากเลยนะ จะบอกให้ รู้สึกดีจังเลย ^ ^ ขอลงเพลงนี้หน่อยนะ