Friday, March 31, 2017

TAIWAN : อาหารชุดมังสวิรัติ @ ซูกั่ว (舒果)

ไต้หวันเป็นเมืองที่อาหารมังสวิรัติหากินได้ง่ายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ ติ่มซำ อาหารฝรั่ง ฯลฯ รวมถึง อาหารชุด (Set Menu) ก็มีนะคะ

ร้าน ซู กั่ว (舒果) หรือชื่อภาษาอังฤษเรียกว่า Sufood  เป็นร้านอาหารมังสวิรัติ ที่เป็น Set Menu ค่ะ  เราเลือกอาหารเป็นชุดของใครของมัน  (ไม่ใช่เลือกมาทานทั้งโต๊ะแบบโต๊ะจีนนะคะ)  แต่ถ้าคิดว่ามันเยอะ กินไม่หมด จะสั่งแบบ  A La Carte ก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา


นี่เป็นรูปเซ็ตที่เราลองครั้งแรกค่ะ


เวลาเปิดปิดนะคะ

วันจันทร์ - ศุกร์  : 
          รอบเที่ยงเปิด 11.30-14.30 น. (Last Order 14.00 น.)
          รอบเย็นเปิด  17.30-21.30 น.  (Last Order 20.30 น.)

วันเสาร์-อาทิตย์ : 
          รอบเที่ยงเปิด 11.30-14.30 น. (Last Order 14.00 น.)
          รอบเย็นเปิด  17.30-22.00 น.  (Last Order 21.00 น.)

ร้านนี้มีทั้งหมด 10 สาขา  เราเคยไป 2 รอบ 2 สาขา  สามารถดูที่อยู่ได้จากเวบของร้านได้เลยค่ะ 
เวบของร้าน http://www.sufood.com.tw/en/

สาขาที่เราไปวันนี้คือ สาขา Taipei Chongqing Street   สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี NTU Hospital แล้วเดินต่อมาพอสมควรค่ะ  ดูในแผนที่จะเข้าใจง่ายกว่า ร้านจะอยู่ชั้น 3 ของตึกเลขที่ 58  ชั้นล่างของตึกจะเป็น Familiy Mart

บรรยากาศร้าน




อาหารเซ็ตนึง ราคาจะอยู่ที่ 398 เหรียญ (+10%) ราคาถือว่าไม่ได้สูงอะไรมากมาย  แต่เซ็ตก็ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนเซ็ตอาหารราคาพันกว่าเหรียญ  แต่เราว่าก็อิ่มมากเลยนะคะ

***เซ็ตอาหารจะประกอบด้วย Vinegar/Salad/Soup/MainCourse/Dessert/Drink   อย่างละ 1 จาน (ให้เราเลือกเอง) รวมแล้ว 6 อย่าง 

เราไปกันหลายคน สั่งอาหารไม่เหมือนกัน เราเลยจะลงรูปรวม แยกเป็นประเภทอาหารนะคะ ***

ชื่อเมนูเราจะไม่แม่นนะคะ เพราว่าเมนูเค้าเป็นภาษาจีน (แต่มีรูปประกอบ)  เราเปิดดูชื่อเมนูภาษาอังกฤษจากในเวบของร้านมาใส่  แต่บางอันก็จะไม่มี เพราะเป็นเมนูหมุนเวียนตามฤดูกาล

อย่างแรกคือ Vinegar  หรือเครื่องดื่มน้ำส้มสายชู    เมืองไทยไม่ค่อยนิยม เคยเห็นแต่ Apple Cider Vinegar  แต่ที่ไต้หวันนิยมมากค่ะ  หลายๆร้านจะมีขาย มีทำจากผลไม้หลายๆชนิด    สรรพคุณก็คือ ช่วยระบบย่อย เจริญอาหาร   แล้วก็ช่วยแก้เลี่ยนได้ดีเลยค่ะ

เค้าจะเสิร์ฟเป็นเหยือกเล็กๆ  เทแบ่งกันค่ะ  สามารถขอเพิ่มได้ 

วันนี้เป็นน้ำส้มสายชูกระเจี๊ยบ



ต่อมาเป็น Salad ค่ะ  มีให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่โต๊ะเราเลือกสั่งมีแค่ 2 อย่างนี้

ซีซาร์สลัด



สลัดผักผลไม้รวม



ต่อมาเป็น Soup  มี 2 อย่าง  เสิร์ฟพร้อมขนมปัง  ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นซุปหัวหอม กับ ซุปผัก นะคะ




ต่อมาก็คือ Main Course  สั่งกันหลายอย่างเลย

อย่างแรกคือ Risotto with Mushrooms & Truffles (เมนูนี้ต้องเพิ่มเงินอีก 50 เหรียญ)



Homemade Vegetable Calzone  ลักษณะจะคล้ายๆพิซซ่าพัฟ




จานนี้ไม่แน่ใจชื่อค่ะ  เป็นสปาเกตตี้ผัดสไตล์จีนใส่ฟักทอง  รสชาติออกเผ็ด และคล้ายๆกินพวกผัดหมี่มากกว่าจะเป็นพาสต้าอิตาเลียน


Wild Mushroom Charcoal Tagliatelle เป็นพาสต้าถ่านชาโคลกับเห็ดค่ะ  ที่เห็นท่อนใหญ่ๆ วงกลมๆเหมือนปลาหมึกนั่น คือเห็ดค่ะ  อร่อย หนึบๆ   ตอนแรกเราคิดว่าเป็นชิกุวะเจซะอีก



อย่างสุดท้ายเป็นหม้อไฟค่ะ  น่ากินมาก เครื่องแน่นมาก   น้ำซุปถ้าแห้งก็เติมได้นะคะ  แต่เครื่องเติมไม่ได้นะจ้ะ      หม้อไฟจะเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย   (หม้อนี้สั่งคนเดียว แบ่งได้ทั้งโต๊ะค่ะ)




พออิ่มแล้วก็เป็นส่วนของ ของหวานและเครื่องดื่มค่ะ  ของหว่ามี 3 อย่าง โต๊ะเราเลือกสั่งครบเลย

อันนี้น่ารักที่สุด  Coconut Milk Jelly and Coffee Jelly  เจ้าหมีน้อยนั่นเป็นวุ้นกะทิ ส่วนด้านล่างจะเป็นเยลลี่กาแฟ กับสาคู  ไม่หวานนะคะ อร่อยดี  น่ารักด้วย



เค้กช็อคโกแลตเสิร์ฟกับไอศกรีม   อันนี้เราว่าธรรมดา


อย่างสุดท้าย คือ พายแอปเปิ้ล ค่ะ อันนี้ก็อร่อย  ชิ้นนิดเดียว แต่รสชาติดี



เครื่องดื่มจะเสิร์ฟพร้อมของหวานค่ะ  มีทั้งร้อนและเย็น  ที่เราสั่งกันมีแค่ 2 อย่าง


น้ำผลไม้  เป็นน้ำส้มลูกเล็กๆของไต้หวันค่ะ  เราชอบเจ้าส้มนี่มากเลย  ถ้าช่วงไหนที่มีขายนะ  เราจะสั่งกินที่ร้นชาไข่มุกโคโค่



ชาแอปเปิ้ล   เป็นชาที่ใส่แอปเปิ้ลมาเป็นชิ้นๆเลยค่ะ



อาหารโดยรวมเราชอบนะคะ  เป็นอาหารฝรั่งที่มีการประยุกต์ให้เข้ากับคนเอเชีย ไม่เลี่ยนมาก  กินได้เรื่อยๆ แล้ว 1 เซ็ตมีหลายอย่าง ทั้งสลัดทั้งซุปด้วย ทำให้เราได้กินหลายๆอย่าง อิ่มพอดีๆ    ราคาก็ไม่ได้แพงมาก   บรรยากาศร้านก็ดูหรูหราดี  แต่คิดว่าแต่ละสาขาตกแต่งไม่เหมือนกัน  สาขานี้ไฟจะมืดๆ ดูหรูหรา   แต่สาขาที่เราเคยไปกินก่อนหน้านี้จะไฟสว่างๆ  บรรยากาศดูเหมือนร้านอาหารครอบครัว    ถือว่าใช้ได้ค่ะ  แต่ว่าถ้าอยากเน้นกินเยอะๆ และกินหลากหลายมากๆ  ก็แนะนำเป็นแนวบุฟเฟ่ต์ค่ะ  มีหลายร้าน


แผนที่ร้านค่ะ


Tuesday, March 21, 2017

TAIWAN : จิบกาแฟ @ E61 Coffee House

E61 เป็นร้านกาแฟเล็กๆ อยู่แถวๆ  National Taiwan Library   บริเวณนั้นจะเป็นสวนสาธารณะ ชื่อ Ba'ersan Memorial Park (八二三紀念公園 อ่านว่า ปา เอ้อ ซัน จี้ เนี้ยน กง หยวน)

ชื่อร้านเต็มๆคือ 壹陸壹咖啡場所   อ่านว่า อี ลิ่ว อี คา เฟ ฉาง สั่ว  壹陸壹 ก็คือ E61 เป็นการเขียนตัวเลขแบบตัวเต็ม ไม่ใช่ 六 一 แบบที่เราเห็นๆกัน (โดยปกติจะเขียนแบบนี้สำหรับการเขียนเช็คค่ะ) 



สามารถนั่ง MRT ไปลงสถานี Yongan Market  แล้วเดินทะลุสวนสาธารณะไปก็จะเจอร้านแล้วค่ะ  แต่อาจจะหายากนิดนึงเพราะร้านเล็ก และไม่เด่น  แนะนำว่าดูตามแผนที่ด้านล่างจะเข้าใจง่ายกว่า  ร้านอยู่ที่เลขที่ 200 ถนน Anle ค่ะ

เวลาเปิดปิด

อังคาร-ศุกร์ 15.00-22.00 น.
เสาร์            15.00-20.00 น.
หยุดวันอาทิตย์และวันจันทร์

ร้านไม่มีเฟสบุคและเวบไซต์ ทำให้ติดตามข่าวสารยาก  ช่วงตรุษจีนนะ เราจะไปกิน เดินไปถึง....แปะป้ายร้านปิด 1 เดือน  สอบถามร้านขายวาฟเฟิลข้างๆ  บอกว่า เค้าจะปิดนานอย่างงี้แหละช่วงนี้ (อ้อ...สามารถสั่งกาแฟมานั่งกินที่ร้านวาฟเฟิลได้นะ  คนขายบอก)  ร้านนี้ก็ร้านวาฟเฟิลดังเหมือนกันนะ แต่เรื่องวาฟเฟิลไว้ก่อน  กลับมาเรื่องกาแฟค่ะ

หน้าร้าน


ร้านจะเล็กๆ รกๆหน่อย เพราะว่าเค้าคั่วกาแฟในร้าน ตามใต้โต๊ะก็จะมีเมล็ดกาแฟกองไว้ด้วย





ร้านไม่มีที่นั่งค่ะ  ต้องยืนกิน  และมีแต่กาแฟล้วนๆ ไม่มีขนม




ตรงเคาท์เตอร์ที่ให้เรายืนกินก็จะมีตกแต่งเล็กน้อย ยืนกินไป อ่านไป







เคาท์เตอร์สั่งเครื่องดื่มค่ะ  เมนูอยู่ด้านบน เป็นภาษาจีนล้วน (เราไม่รอดค่ะ ต้องให้สามีช่วยสั่งให้  เหอๆๆ)  ถ้าเทียบกับลักษณะร้านแล้ว กาแฟก็ไม่ได้ถูกนะคะ แก้วละประมาณ 80-100ต้นๆ 


รูปค่อนข้างน้อย ถ่ายไกลด้วยเพราะเราโดนคนขายดุเอาเรื่องถ่ายรูปค่ะ  (เค้าไม่ให้ถ่ายตอนเค้าชงกาแฟ เพราะเป็นการรบกวน  เราเลยไม่กล้าย่างกรายไปใกล้ๆเคาท์เตอร์เลย)  และหลังจากโดนดุคราวนี้  เรากลัวไปเลยค่ะ  หลายๆร้านเลยอาจจะไม่ค่อยมีรูป  

ไม่ใช่ว่าเราอยู่ดีๆไปถ่ายรูปนะคะ  เราขอเค้าแล้ว เค้าว่าถ่ายได้แต่ห้ามรบกวนเค้าและแขกคนอื่น  เราก็เลยไม่ได้คิดว่าการถ่ายเค้าชงกาแฟเป็นการรบกวน คิดน้อยไปหน่อย เพราะไม่เคยเจอร้านที่ไม่ให้ถ่ายตอนชงมาก่อน ตอนนี้จะถ่ายอะไรเลยเกร็งๆกลัวๆ  ต้องคิดเยอะกว่านี้

กาแฟเราสั่งตัวดังของเค้าค่ะ Brown Sugar Cappucino (黑糖卡布 อ่านว่า เฮ ถัง ข่า ปู้)   อร่อยค่ะ  ฟองนุ่ม หอม  มีรสหวานนิดๆของน้ำตาลทรายแดง


อีกตัวที่ลองคือ Mocha (ถ้าจำไม่ผิดนะ) 


กาแฟอร่อยค่ะ  เราก็คิดจะไปลองซ้ำ แต่อย่างที่บอกว่าร้านปิดช่วงตรุษจีนเลยอด   คนเยอะนะคะร้านนี้  เห็นอย่างงี้คนเข้าร้านไม่ขาดสายเลย   หน้าร้านไม่มีที่ยืน เค้าก็ยืนกินกันนอกร้านค่ะ   นอกจากร้านกาแฟนี้แล้ว แถวนี้มีของอร่อยอย่างอื่นอีกหลายอย่างค่ะ  (แถวบ้านญาติ เราเลยได้มาบ่อย) ไว้จะมาแนะนำนะคะ

แผนที่ร้านค่ะ 

Monday, March 20, 2017

TAIWAN : วาฟเฟิลอร่อยๆ @ Melange Cafe

ขนมยอดฮิตที่ไต้หวันอย่างนึงก็คือ วาฟเฟิล     คาเฟ่หรือร้านกาแฟส่วนใหญ่จะต้องมีเมนูนี้  แต่ส่วนตัวแล้วเป็นเมนูที่เราเฉยๆ  เลยไม่ค่อยได้สั่ง  เคยได้ยินหรือเห็นรีวิวร้าน Melange Cafe มาบ้าง แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนพอดีวันนึงบังเอิญผ่านไป ตอนช่วงเกือบ 5 โมงเย็น คนยังนั่งเต็มร้าน ในขณะที่คาเฟ่ข้างเคียงไม่มีคน  อืม....มันต้องมีดี อร่อยจริงจังแน่ๆ   เราเลยอยากลองดู

ร้าน Melange Cafe  (米朗琪咖啡館)  ภาษาจีนอ่านว่า หมีหล่างฉีคาเฟก่วน

เดิมร้านมี 3 สาขา คือที่ Zhongshan มี 2 ร้าน และที่ห้าง Shinkong Mitsukoshi A11  แต่รู้สึกว่าสาขาที่ A11 จะปิดไปแล้ว เลยเหลือแค่ 2 สาขา สามารถดูรายละเอียดได้จากเฟสบุคของร้าน https://www.facebook.com/MelangeCafe/ และ
เวบไซต์ของร้าน http://www.melangecafe.com.tw/

สำหรับเวลาเปิดปิดนะคะ

สาขาแรก (ร้านดั้งเดิม) 

วันธรรมดา เปิด 7.30-22.00 น.
วันเสาร์อาทิตย์ เปิด 9.30-22.00 น.

คืนก่อนวันหยุดยาวจะเปิดถึง 23.00 น.
(Last Order ก่อนร้านปิด 40 นาที)

สาขาสอง (จริงๆก็อยู่ใกล้สาขาแรกค่ะ  เดินถัดไปแค่ไม่กี่หลัง)

เปิด 9.30-22.00 น. ของทุกวัน
(Last Order ก่อนร้านปิด 40 นาที)

สาขาที่เราไปคือสาขาแรก ร้านดั้งเดิม

สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี Zhongshan ออกทางออกที่ 4 แล้วเดินต่อมานิดนึงค่ะ (ดูจากแผนที่ด้านล่างนะคะ)



เรากลับไปกินในวันรุ่งขึ้น ช่วงเวลาประมาณบ่ายสาม  โอ้โห....ต่อคิวค่ะ  คิวไม่มากเท่ากับที่เห็นเค้ารีวิวกัน แต่ว่าก็รอนานพอสมควร



ในร้านคนเยอะ และเสียงดังนิดหน่อย เพราะเป็นคาเฟ่ คนจะนั่งชิลๆกินขนมและพูดคุยกัน  เท่าที่เราสังเกตนะ  ร้านสไตล์แบบนี้คนจะนั่งค่อนข้างนาน  และพนักงานก็ไม่ได้กดดันให้รีบลุกเหมือนเมืองไทย แต่..... ***เค้ามีกำหนดไว้นะคะ ว่านั่งกินได้ 2 ชั่วโมง*** และ *** แต่ละคนต้องสั่งเครื่องดื่มขั้นต่ำ 100 เหรียญ***

(เรื่องบังคับสั่งทุกคนนี่เป็นเรื่องธรรมดาของร้านที่ไต้หวันนะคะ ไม่ต้องจกใจ หลายๆร้านเป็นอย่างงี้) 


บรรยากาศร้าน   จะเป็นแนวคาเฟ่ญี่ปุ่น  แม้แต่ในเมนูก็มีภาษาญี่ปุ่นด้วยค่ะ  

                   









ชอบน้ำตาลที่เค้าวางให้บนโต๊ะ โถเดียวมีทุกชนิดน้ำตาล เลือกตักเอาเอง


แน่นอนว่าเราต้องสั่งเมนูยอดฮิต ขายดีสุดๆ คือ Strawberry Cream Waffle สั่งทุกโต๊ะ 555 ราคา 170 เหรียญ



วาฟเฟิลที่ฮิตๆในไต้หวันจะเป็นแนวแป้งฟูหนานุ่ม  เหมือนกินพวกขนมเค้ก  ถามว่าอร่อยมั้ย  อร่อยค่ะ  อร่อยจริงๆ แต่เราชอบแนว บางๆกรอบๆหน่อยมากกว่านะ

เครื่องดื่มวันนี้ลองกาแฟ Blue Moutain no.1  ราคา 230 เหรียญ  เค้ามีเมนูเครื่องดื่มเยอะมากๆ แต่ว่าเราไม่ได้ถ่ายเมนูมาค่ะ


อีกแก้วเป็น Caramel Latte with Jelly  ราคา 160 เหรียญ



จะว่าไปวาฟเฟิลราคาไม่แพงนะคะ  เครื่องดื่มบางอย่างยังแพงกว่าอีก  

เครื่องดื่มก็ใช้ได้ค่ะ เมนูหลากหลายมาก จะ ชา กาแฟ น้ำผลไม้ มีหมด   ขนมก็มีหลายอย่าง แต่ถ้าอยากกินหนักท้องหน่อยก็มีแซนวิชและสลัดด้วย

ถ้าชอบวาฟเฟิล และอยากลองสไตล์หนานุ่มก็มาได้ค่ะ  เดินหาไม่ยาก  เพราะเราจะเห็นคนยืนรอคิวหน้าร้านแน่ๆ 

แผนที่ร้าน