Tuesday, January 4, 2011

สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก

เพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อวาน (เชยเนอะ) คนประมาณ สิบคนบอกว่านางเอกเรื่องนี้เหมือนเรา (พี่ชายเรายังบอกว่าเหมือนเลย) ดูไตเติ้ลแล้วคิดว่ามันไม่น่าจะสนุกอ่ะ แต่พอดูแล้วชอบแฮะ ไม่ได้อินกับชีวิตวัยเด็กเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ แต่ชอบพล๊อตเรื่องมากมาย



ขอลง MV หน่อย เพิ่งมีคนเอาลงพันทิบเมื่ิวานเอง ชอบบบบบบ



ป.ล. MV มันสปอยล์นะคะ






ข้อความข้างล่างทั้งหมดนี้เอามาจากพันทิบนะคะ กระทุ้ของคุณ
cacashi http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/09/A9661846/A9661846.html ซึ้งจัง



สวัสดีครับทุกคน
ทั้งหมดนี่มาจากความทรงจำและความคิดของผมนะครับ
อาจไม่ตรงใจใครบ้าง ผิดพลาดไปบ้าง แต่ก็อ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ ^_^



เราทุกคน คงเคยมีใครสักคนที่เป็นคนพิเศษสำหรับเราใช่ไหมครับ
คนที่เราไม่เคยที่จะลืมเลือนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าไม่สามารถลืมได้ต่างหาก
คนที่เราแค่มองดูเขาก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอ แค่เห็นเธอเดิน หัวเราะ หรือทำอะไรก็ทำให้เรามีความสุขอย่างบอกไม่ถูกแล้ว




วันนั้นผมบังเอิญไปเห็นลูกแมวตัวนึงติดอยู่บนต้นไม้แล้วลงไม่ได้ ผมก็เลยปีนขึ้นไป เพื่อที่จะช่วยมันลงมา
ก่อนโดดลงมาพอดีเหลือบไปเห็นมะม่วงอยู่ ก็เลยเด็ดติดมือเป็นของฝากซะหน่อย
พอโดดมาถึงพื้นก็เจ็บแปล๊บเลยครับ สงสัยมันจะสูงไปหน่อย รู้สึกว่าขาผมจะเดี้ยงซะแล้วสิ
แถมเกือบโดดลงมาทับน้องผู้หญิงคนนึงด้วย ผมก็เลยยิ้มแล้วยื่นมะม่วงให้เธอไป 2 ลูก

“มะม่วงมั้ย”

เธอก็รับไปแบบงงๆ น้องเขาตลกดีนะ ไอติมเปื้อนหน้าด้วย
จากนั้นผมก็เอาลูกแมวไปวางให้แม่มัน ไปล่ะนะ อย่าไปเที่ยวซนที่ไหนอีกล่ะ
โอ๊ยเจ็บขาแฮะเย็นนี้จะเตะบอลได้ไหมเนี้ย
วันนั้นเป็นวันแรกที่ผมได้เจอกับเธอครับ ผู้หญิงที่ทำให้ผมได้รู้จักกับสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า รัก



วันนี้แกล้งเอก โดนครูทำโทษให้มายืนขาเดียวคาบไม่บรรทัด นอกห้องเรียน ฟังเพลงดีกว่าไม่มีอะไรทำ
ได้เจอน้องคนนั้นด้วยแฮะ น้องเขาทำหน้าอึ้งๆทำไมหว่า ผมต้องรีบจุ๊ปากให้เงียบ กลัวน้องเขาฟ้องครู
น้องเขาให้ความร่วมมือดีแฮะน่ารักจริงๆ วันนี้อารมณ์ดีจัง เพลงก็สนุกเต้นหน่อยดีกว่า(เอ น้องเขาจะคิดว่าเราบ้าเปล่านะ)



ไอ้ดิ่งมันก่อเรื่องอีกแล้ว ไปแซงคิวซื้อน้ำไม่พอ ยังไปชนจนน้องผู้หญิงที่ต่อแถวล้มเลย นั้นน้องคนนั้นนี่นา
แถมมันยังอ้างสิทธินักกีฬาอีกนะ ผมก็เลยอ้างสิทธินักบอลซื้อน้ำตัดหน้ามันซะเลย แล้วเอาไปให้พวกน้องเขา
ว่าแต่ผมยังไม่รู้ชื่อน้องเขาเลยแฮะ



เมื่อวานมีเรื่องกับไอ้ดิ่ง ตอนเช้าโดนครูตีเลย ว่าแต่ทำไมผมโดน 2 ที แต่ไอ้ดิ่งโดนทีเดียวล่ะเนี้ย
ซวยแต่เช้าเลย แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงเพราะเรื่องนี้ ก็ทำให้ผมรู้ชื่อน้องเค้าสักที
ตอนผมกำลังจะเดินกลับห้องเรียน น้องคนนั้นเอาพลาสเตอร์ยามาให้ ขอโทษผม แล้วอวยพรให้ผมหายเร็วๆด้วย
แปลกแฮะผมยังจำประโยคนั้นได้ดีเลย

“พี่คะ เรื่องเมื่อวานน้ำขอโทษนะคะ"

“ไม่เป็นไร มันไม่เกี่ยวกับน้องหรอก”

“พลาสเตอร์ยาค่ะ หายเร็วๆนะคะ”

“น้ำ...ขอบใจนะ”

แล้วน้องเขาก็วิ่งหายไปเลย ชื่อน้ำหรอเนี้ย วิ่งน่ารักดีแฮะ



ตอนกินข้าวที่โรงอาหาร เอกมันชี้ให้ดูว่ามีคนมองเราอยู่ คนไหนหว่า นั้นน้องน้ำนี่ใส่เหล็กดัดฝันด้วยน่ารักเชียว
ทำไมเราไม่กล้ามองตรงๆนะ



นั้นพวกน้องน้ำนี่นาขนขนมเต็มมือเลย น้ำวางอะไรบนรถเราหว่า เดินมาทางนี้กันแล้ว อ้าววิ่งหนีไปไหนกัน ไม่ทักสักคำ
ตอนเย็นจะกลับบ้าน ถึงรู้ว่าเป็นช็อคโกแลต ตอนหยิบเผลอเอียงหกรดเบาะเลย ซวยแล้วเลาะหมดเลย
ช็อคโกแลตที่น้องน้ำอุตส่าห์เอามาให้ หกเกือบหมดเลย



วันนี้ได้เจอน้องน้ำอีกแล้วมาซื้อลูกปิงปองที่บ้าน เสียดายแฮะดันออกไปข้างนอกกว่าจะกลับมาเกือบไม่ได้เจอ
(แล้วทำไมเราถึงต้องอยากเจอเขาด้วยหว่า) วันนี้น้องน้ำตัวเหลืองจัง เราก็กลัวน้องเค้าไม่สบาย แต่ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา
เลยถามน้องเค้าด้วยความเป็นห่วงไปว่า เป็นดีซ่านหรือเปล่า
มีน้องเค้กมะม่วงมาซื้อลูกปิงปอง จะพาไปซื้อแป๊บเดียว หันกลับมาน้องเค้กมะม่วงก็ลื่นล้มไปซะแล้ว
ว่าแต่น้องน้ำหายไปไหนเนี้ย



วันนี้ต้องเริ่มเก็บภาพสักหน่อยแล้วเดี๋ยวส่งประกวดไม่ทัน ก่อนอื่นไปสมัครเข้าชมรมก่อนดีกว่า
นั้นน้ำนี่นาแวะไปทักหน่อยดีกว่า แต่ไม่เอาดีกว่าไม่กล้าทักแฮะ มีตัวช่วยมาพอดีเลย
น้องเค้กมะม่วงจะให้ถ่ายรูปให้ ฮะ ฮะ น้ำแอบมาเข้าเฟรมด้วยแฮะตลกจริงๆเลยเด็กคนนี้
น้องน้ำขาวขึ้นนะ ตัวก็หายเหลืองแล้วด้วย เลยทักน้องเขาไป น้องเขาทำท่าเขินๆด้วย เวลาเขินนี่น่ารักดีนะ
ผมเลยบอกไปว่า ”พี่จะรอดูพวกเราวันงานโรงเรียนนะ” น้ำจะรู้มั้ยว่าประโยคนี้เป็นของน้ำคนเดียว



ปิ่นมาเล่าให้ฟังว่าน้องเค้กมะม่วงตั้งใจจะแกล้งน้องน้ำให้เกินเป๊บซี่ผสมน้ำปลา
ขอบคุณปิ่นจริงๆที่ช่วยน้องน้ำไว้ น้องเค้กมะม่วงนี่ร้ายจริงๆเลย ไม่ไหว



ครูอินให้พวกเราไปช่วยทำฉากละครเวที ได้เจอน้องน้ำด้วย อ้าวนึกว่าอยู่ชมรมนาฏศิลป์ซะอีก
น้องน้ำได้เล่นเป็นสโนว์ไวท์ด้วย เหมาะสมที่สุด รู้อย่างนี้ไม่น่าเข้าชมรมถ่ายรูปเลย อยากเป็นเจ้าชายยยยย
งานวันนี้เสร็จแล้ว แอบไปถ่ายรูปของๆน้องน้ำดีกว่า นี่หนังสืออะไรเนี้ยตลกดีนะ 9วิธี...จีบรุ่นพี่มาเป็นแฟนหรอ
แต่มันก็ทำให้พี่รู้นะว่าน้ำพยายามแค่ไหน อยากบอกให้น้ำรู้จังว่า “น้ำทำสำเร็จ.....ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว”
อะ มีคนมา น้องน้ำนี่เอง “จะกลับแล้วหรอ กลับบ้านดีๆนะ”
เฮ้อ ทำไมเราไม่พูดว่าให้พี่ไปส่งไหมหว่า ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้มันพูดยากพูดเย็นนักนะ
นั้นน้องน้ำเป็นอะไรน่ะ ตอนแรกก็เดินดีๆนี่นา ทำไมตอนกลับขาเป๋หว่า



มีคนโทรมาหาแต่ไม่ยอมพูด นั้นมันเสียงน้องน้ำใช่หรือเปล่านะ ฮัลโล ฮัลโล สงสัยวางไปซะแล้ว

วันนี้ปิ่นไปช่วยแต่งหน้าให้ชมรมการแสดง ในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นแบบที่เราเห็นแล้วแฮะ
ว่าน้องน้ำน่ารักแค่ไหน สำหรับผมเห็นมานานมากแล้ว
ภาพโคลสอัพ ทำให้เราเห็นอะไรๆได้มากจริงๆ
วันนี้ตอนปิ่นถามว่า "เป็นไงฝีมือเรา"
ตอบปิ่นไปว่า "เหมือนเดิม" "สโนว์ไวท์ ใส่เหล็กดัดฟัน" พี่ขอโทษนะน้ำ พี่เห็นน้ำทำหน้าเหวอเลย
จากนั้นพี่ก็รีบลงจากเวทีไป มันเกือบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่ไหวแล้ว ที่พี่พูดไปก็เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเท่านั้นเอง
ที่พี่อยากจะบอกจริงๆก็คือ "เหมือนเดิม.................."น่ารักเหมือนเดิม"



วันนี้ได้ซ้อมละครกับน้ำด้วยโชคดียังแฮะ ทาสีอยู่ดีๆคนเล่นเป็นเจ้าชายดันท้องเสีย ครูอินให้เราเล่นแทน
น้องน้ำถอดเหล็กตัดฟันแล้วนี่นา ใส่ชุดสโนว์ไวท์แล้วน่ารักจัง แย่แล้วโคตรตื่นเต้นเลย
รู้สึกว่าตัวเองพูดบทได้แข็งมาก ก็ดันให้มาซ้อมบทจูบนี่นา น้ำตัวเกร็งเลย คงตื่นเต้นเหมือนกันกับเรา
ใกล้แล้วอีกนิดเดียว เก็บอาการหน่อยสิวะโชน เดี๋ยวคนอื่นก็รู้กันพอดี
อ้าวเฮ้ย ไอ้คุณเจ้าชายดันกลับมาพอดี อดเลย รู้สึกเศร้ายังไงก็ไม่รู้
น้ำทำอะไรน่ะ อยู่ๆน้ำก็ลุกพรวดขึ้นมา แล้วสะดุดเกือบตกเวที
ดีนะผมจับมือไว้ได้ทัน แต่ก็ต้องรีบปล่อยมือกลัวคนอื่นจะรู้
ผมตกใจมากถึงกับตะคอกน้ำเลย "เดี๋ยวก็ตกเวทีคอหักตายหรอก"



ถึงวันงานโรงเรียนแล้ว น้องน้ำจะแสดงแล้ว แอบเอาแอ๊ปเปิลไปให้ กัดไปคำนึง แล้วก็เขียนข้อความไว้
"ให้สโนว์ไวท์ ลองชิมดูแล้วไม่มีพิษ"
เดี๋ยวไปถ่ายรูปน้ำหน้าเวทีหน่อยดีกว่า
เอาแล้วไงงานเข้า ผ.อ. เรียกผมไปหาทำไมนะ ไม่ได้ไปก่อเรื่องที่ไหนนี่นา

เย้ รูปเราได้รางวัลชนะเลิศ แต่ทำไมต้องไปรับรางวัลวันนี้ด้วย
ทำยังไงดีอยากดูน้ำแสดงละครจัง



วันนี้ได้เจอท็อปเพื่อนซี้ที่รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล ดีใจที่ได้เจอมันจริงๆ
แต่ส่อแววมีปัญหาซะแล้วสิ ท็อปถามว่าน้องน้ำมีแฟนหรือยัง
ผมก็ตอบไปว่าไม่น่านะ ไม่อยากให้มันจีบน้ำเลย เลยบอกมันว่าเด็กไปมั้ง
มันดันบอกว่า ป.5 มันก็เคยขอเบอร์มาแล้ว



น้องน้ำได้เป็นดรัมเมเยอร์คนใหม่ด้วย เห็นซ้อมอยู่ สู้ๆนะน้ำ พี่เป็นกำลังใจให้เสมอ



คุณท็อปมันแอบไปดูน้องน้ำอีกแล้ว ผมต้องไปล็อคคอมันลากมันไปเล่นบอลต่อ
เฮ้อจะทำไงดีนะ กลุ้มจริงๆ เกือบลืม วันนี้ไปซื้อปุ๋ยมาใส่ต้นกุหลาบดีกว่า ทำไมมันปลูกยากจังนะ



ไม้ดรัมเมเยอร์พังซะแล้ว น้องน้ำต้องใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวแทน ระวังเจ็บมือนะน้ำ
สู้ๆนะน้ำ



ดูน้ำจะท้อๆนะ พี่รู้ว่ามันยากแต่พี่ไม่อยากเห็นน้ำเป็นแบบนี้เลย มีอะไรที่พี่พอจะทำเพื่อน้ำได้บ้างนะ

วันนี้มีซ้อมแข่งใหญ่ น้องน้ำก็มาดูด้วย ทีมพวกเราได้ลูกจุดโทษ ท็อปรับหน้าที่เป็นคนยิง
นี่ละสิ่งที่พี่พอจะทำเพื่อน้ำได้ ถ้าพี่ทำได้ น้ำก็น่าจะทำได้เหมือนกัน
ผมจับแขนท็อปไว้
"มรึงจะยิงจุดโทษหรือวะ"
เพื่อนๆในทีมดูจะตกใจกันมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมปฏิเสธมาตลอด
น้ำดูพี่นะ
"เปรี๊ยง"
บอลชนสามเหลี่ยมบนแล้วเด้งออกไป ผมพลาด
ผมก้มหน้านิ่ง ผมช่วยน้ำไม่ได้ช่วยไม่ได้แม้แต่ตัวเอง

"เฮ้ย...กรูให้มรึงยิงอีกที"

"ลูกโทษบ้านป้ามรึงมียิงใหม่ได้ด้วยหรอวะ"

"เออ บ้านป้ากรูนี่ล่ะ"

"บ้านลุงกรูก็มี"

"บ้านครูก็มี ที่สำคัญครูยังไม่ได้เป่านกหวีดเลย"

ผมได้โอกาสอีกครั้ง ครั้งนี่ล่ะผมต้องทำให้ได้
ดูพี่ให้ดีนะน้ำ
"ซวบ"
เข้าไปแล้ว ต้องขอบใจเพื่อนๆกับครูพลจริงๆ
"ทีนี้เธอก็พร้อมเป็นศูนย์หน้าของโรงเรียนแล้วใช่ไหม"
"ครับ"
ผมหันไปหาน้ำแล้วพยักหน้าให้ น้ำได้ข้อความจากพี่ไหม
พี่ทำได้แล้วนะ ต่อไปก็ถึงตาน้ำแล้ว



น้ำซ้อมหนักแฮะ โอ๊ย โดนหัวเต็มๆเลย เจ็บมากไหมน้ำ
พี่คงทำได้แค่ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ พยายามเข้านะ
"เก่งขึ้นแล้วนะน้ำ"



วันนี้น้ำอยู่ในชุดดรัมเมเยอร์สีขาว สวยมากๆเลย ท็อปมันเพ้อขนาดว่า มันไม่อยากจะไปไหนแล้ว
แต่มันก็พูดอย่างนี้ทุกทีแหละ
น้ำชำเลืองมองมาทางพี่ด้วย วันนี้พี่วิ่งตามถ่ายรูปน้ำซะเหนื่อยเลย แต่ก็สุขใจนะ
"ความรักชนะทุกอย่าง.....โดยเฉพาะความกลัว"



ผมก็จะชนะความกลัวของผมเหมือนกัน วันนี้แล้วสินะ Valentine กุหลาบขาวที่ผมตั้งใจปลูกเพื่อให้กับน้ำ
ในวันนี้โดยเฉพาะ กว่าจะรับของขวัญเสร็จ น้องน้ำอยู่ไหนนะ ลองไปดูที่ห้องดีกว่า
นั้นเพื่อนน้ำนี่ น้องน้ำออกมาแล้ว วันนี้ก็น่ารักเหมือนเดิม ทำไมเริ่มรู้สึกกลัวอีกแล้วนะ ก็ตั้งใจไว้แล้วนี่
สู้เขาโชน ผมยื่นดอกกุหลาบขาวให้น้ำ น้ำยิ้มเขินๆแล้วรับไป ผมอยากจะบอกความในใจเหลือเกิน
แต่แล้วความกลัวของผมดันชนะความรักซะได้ ปากเจ้ากรรมดันพูดไปว่า
"เพื่อนฝากมาให้" น้ำหุบยิ้มหน้าเสียเลย ผมรีบหันหลังแล้วเดินไป น้ำพี่ขอโทษ
พี่ไม่อยากทำให้น้ำเสียใจเลย แต่พี่ไม่กล้าจริงๆ

วันต่อมาผมเห็นน้ำอยู่ที่โถงบันได น้ำมาทำอะไรนะ แต่ก็ดีวันนี้ล่ะที่ผมจะบอกความรู้สึกของผมสักที
พอผมขึ้นมาถึงและกำลังจะถามน้ำ
"น้ำ.....เอ่อ"
ท็อปก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ แล้วก็ขอคบเป็นแฟนกับน้ำ
ดูน้ำจะตกใจมาก น้ำถามผมว่าเมื่อกี้ ผมจะพูดอะไร
ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออกแล้วครับ แทบจะไม่มีแรงยืนด้วยซ้ำ
แต่ผมก็ฝืนยิ้มตอบไปว่า "พี่แค่จะถามน้ำว่าขึ้นมาทำอะไรบนนี้ แต่ตอนนี้พี่รู้แล้ว"
ผมยิ้มให้น้ำ ตบแขนท็อปเบา แล้วหันหลังเดินลงบันไดไป
ยิ่งเดินขาก็ยิ่งหนัก ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมด จนผมไม่สามารถเดินต่อไปได้อีก
"รู้ไหมว่ามันเจ็บ" ทำไม "ช่วงเวลาของเรา ไม่เคยตรงกันเลย"



วันนี้ซ้อมทีมโรงเรียนครั้งแรก น้ำมาดูด้วยถึงจะมากับท็อปก็เถอะ เฮ้อ ไม่ค่อยมีกำลังใจเลยแฮะ
เดินออกไปขอน้ำกิน ไม่มีใครมีเลย น้องน้ำยื่นน้ำมาให้ ผมกินแล้วก็รีบหันหน้ากลับเข้าไปในสนาม
มันกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่จริงๆนะ แปลกจริงๆน้ำของน้องน้ำคงใส่กำลังใจลงไปด้วย อยู่ๆผมก็มีกำลังใจขึ้นมาจนล้นเลย
ครูพลบอกให้ใช้แผน B จัดไปครับ
เย้ ทำประตูได้แล้ว ดีใจมากเลย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าดีใจเรื่องไหนมากกว่ากันนะ
ตอนขากลับ ท็อปชวนไปขี่รถเล่น ผมก็พยายามขี่ขึ้นหน้ามัน ไม่อยากให้ท็อปเห็นหน้าผม
มันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าน้องน้ำซ้อนท้ายรถเราก็คงดีสินะ




วันนี้ไปเที่ยวเขื่อนกับเพื่อนๆ น้องน้ำก็มาด้วย แต่งตัวน่ารักจังเลย เอ๋ น้ำคุยโทรศัพท์กับใครนะ
นั่นน้ำนั่งทำอะไรอยู่คนเดียวน่ะ

"น้ำมานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่คนเดียว"

"พี่โชน น้ำว่าที่นี่มันสวยดี"

"พี่โชนกินปลาหมึกไหมคะ"

"น้ำเคยฟังเรื่องเล่าของปลาหมึกไหม"

"ไม่เคย"

"มางั้นเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง"

"มีปลาหมึก 2 ตัวได้เดินทางมาเจอกันและได้รักกัน ในวันแต่งงานบาทหลวงปลาหมึกก็ให้ปลาหมึกทั้ง 2 จับมือกัน
มันก็ จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน จับมือกัน"

"พี่โชนอ่ะ.....บ้า"

"แต่ก็ น่ารักดีนะ"

"คนเล่าหรือปลาหมึก"

"คนเล่า......เอ๊ย ปลาหมึก น้ำเป็นอะไรไม่รู้พูดผิดพูดถูกไปหมดแล้ว"

น้ำนี่น่ารักจริงๆนะเนี้ย โก๊ะๆ ใสๆ

"หลังจากได้ฟังเรื่องนี้ พี่ก็ไม่กินปลาหมึกอีกเลย"

"ฟังแล้วกินไม่ลงเลย เนอะ"

"แล้วพี่โชนเคยจับมือใครเหมือนปลาหมึกรึเปล่า"

"ก็เคยครั้งนึง เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาเฟอะฟะๆคนนึง กำลังจะตกจากเวทีพี่เลยจับมือเขาไว้"

นี่เรากำลังจะสารภาพรักรึเนี้ย

"มานั่งทำอะไรกันตรงนี้ "

"แล้วนี่ทำไมไม่กินปลาหมึกล่ะคะ พี่ท็อปอุตส่าห์ทำให้นะ"

"อย่า...."

"ทำไมอ่ะ อร่อยดีนะ"

ตอนเดินกลับท็อปถามผมว่า ผมชอบน้ำหรือเปล่า มันก็เป็นโอกาสของผมแล้วนะที่จะบอกมัน แต่ผมก็ยังไม่กล้าอยู่ดี
วันนั้นถ้าบอกไป อะไรๆก็คงจะดีกว่านี้
“ โอ๊ย ”
น้องน้ำหกล้ม ผมตกใจรีบวิ่งกลับไปดู น้ำเดินไม่ไหว ท็อปเลยให้น้ำขี่หลัง ผมก็ทำได้แค่ช่วยถือกระเป๋าของน้ำ
"อยากให้น้ำขี่หลังเราบ้างจัง"



วันนี้เห็นน้ำเดินไปคุยกับเพื่อนดูท่าทางจะมีปัญหากันนะ



ท็อปนัดผมมาช่วยติวหนังสือให้น้ำ นั่นน้ำนี่ นั่งอยู่คนเดียวด้วย มุมนี้น้ำน่ารักจังถ่ายรูปเก็บไว้อีกแล้ว
นี่เป็นภาพน้ำภาพที่เท่าไหร่ของเราแล้วนะ

"ท็อปยังไม่มาหรอ มันนัดพี่มาช่วยติวหนังสือให้เด็ก ม.3"

"ไปหาหนังสือมาทำรายงานให้เด็ก ม.3 คะ"

"วันนั้นแม่พี่อยู่โรงพยาบาล"

นี่เราพูดอะไรออกไปนะ เวลาอยู่กับน้ำจิตใจของเรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนเราจะสามารถปลดปล่อย
สิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในใจเราออกมาได้ทั้งหมด วันนี้เราแน่ใจและพร้อมแล้วล่ะที่จะบอกน้ำ บอกความรู้สึกของเรากับน้ำ

"วันไหนค่ะ"

"วันที่พ่อพี่ยิงจุดโทษพลาด พี่เกิดวันนั้นแหละ"

"พ่อพี่เลยให้ของขวัญวันเกิดพี่ ด้วยการเลิกเล่นบอลอาชีพตลอดชีวิต"

"พี่นี่มันตัวซวยจริงๆ คิดดูสิจังหวัดนี้ยังไม่เคยได้เข้าชิงระดับประเทศเลยสักครั้ง"

"พี่โชนโอเคนะคะ"

"พี่โอเค มันกลายเป็นนามสกุลพี่ไปแล้วล่ะ ไอ้โชน พ่อยิงจุดโทษไม่เข้า"

"แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ยังไงตอนนี้พี่ก็ได้เป็นนักบอลแล้วนี่"

"แล้วคิดจะเป็นนักบอลอาชีพรึเปล่าคะ"

"ก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้พี่อยากมีใครสักคน"

แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดออกไป

"น้ำพี่หาหนังสือไม่เจอเลย ไปช่วยพี่หาหน่อยสิ"

"โชนรอแป๊บนะ"

ภาพที่น้ำเดินไปกับท็อป ท็อปจัดผมให้น้ำ มันทำให้หัวใจของผมเจ็บอย่างบอกไม่ถูก

"น้ำ............เป็นแฟนกับพี่ไหม"

ผมพูดออกไปแล้วแต่ไม่มีใครได้ยินนอกจากตัวผมเอง ผมอยากให้น้ำได้ยินจริงๆ คำที่ผมน่าจะพูดไปตั้งนานแล้ว
คำที่จะเปลี่ยนโลกที่เดียวดายของผม



วันนี้พวกเราจะเซอร์ไพรส์วันเกิดเอกกัน พวกเราไปก่อกองไฟ แล้วพลัดกันแสดง
ปิ่นกำลังร้องเพลง "รักเธอแต่เธอไม่รู้" อยู่ ผมกับน้ำกำลังช่วยกันทำอาหาร เพลงเข้าเข้ากับบรรยากาศดีจัง
อ๊ะ มือเราเผลอชนกันด้วย น้องน้ำทำเขินๆด้วยแฮะ
"พี่โชนวันนี้มีอะไรเซอร์ไพรส์พี่เอกหรอ"
"ไว้เดี๋ยวน้ำคอยดูเองล่ะกัน"


ถึงคิวผมกับท็อปแล้วท็อปก็เล่าเรื่องเก่าของเรา เรื่องที่ว่าเราจะไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน มันจะบอกอะไรผมเปล่าเนี้ย
เริ่มแล้วการแสดงของพวกผม เต้นเพลงรำระบำชาวเกาะ เต้นได้สักพักท็อปก็ไปดึงน้องน้ำมาเต้นด้วย

แล้วอยู่ๆท็อปก็..............................................หอมแก้มน้ำ

เหมือนมีอะไรพังทลายลงไป ทำไมมันเจ็บอย่างนี้นะ



นี่ผมกำลังอกหักใช่ไหม


วันต่อมาท็อปเรียกผมไปคุยที่โรงเรียน มันเล่าเรื่องน้องน้ำให้ผมฟัง
ท็อปบอกตั้งแต่มันจีบผู้หญิงมาคนนี้เจ็บสุด ท็อปขอผมเรื่องนึง เรื่องที่ไม่ต่างกับขอให้ผมควักหัวใจตัวเอง

"มรึงอย่าจีบน้ำได้เปล่าวะ"

"มรึงคิดว่าเขาเลิกกับมรึงเพราะกรูหรอวะ"

"เปล่า.........กรูแค่รับไม่ได้ที่เพื่อนสนิทของกรูเป็นแฟนกับคนที่กรูรัก"

"มรึงพูดขนาดนี้กรูจะทำอะไรได้อีกวะ"

"แล้วมรึงโอเคเปล่าล่ะ"

"เออ"

ผมตบมือกับมันเป็นการสัญญา ยังไงมันก็เป็นเพื่อนรักของผม เสียสละเพื่อผมมันก็เคยทำมาแล้ว
แล้วทำไมผมจะทำเพื่อมันไม่ได้ล่ะ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นรักแท้ของผมก็ตาม




แอบเห็นน้ำเหงาอยู่คนเดียว ผมอยากไปอยู่ข้างๆน้ำจริงๆ แต่ผม..........




วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะอยู่โรงเรียนแล้ว ยังไม่ได้เจอน้ำเลย ไปเดินเก็บภาพโรงเรียนดีกว่า
สระน้ำ สถานที่ๆเกือบจะเปลี่ยนโลกของผม ผมหันหลังกลับมาแล้วเจอน้ำ

"อ้าวน้ำ น้ำยังไม่ได้เซ็นต์เสื้อให้พี่เลยนะ"

"พี่โชนคะคือ.............น้ำชอบพี่โชนมาก ชอบมา 3 ปีแล้ว"

"ที่น้ำทำทุกอย่าง ไปแสดงละคร ไปเป็นดรัมเมเยอร์ พยายามเรียนให้เก่ง ทั้งหมดก็เพื่อพี่”

"แต่สิ่งที่น้ำควรทำที่สุดก็คือบอกกับพี่โชนว่า....."

"น้ำชอบพี่โชน"

น้ำยิ้มทั้งน้ำตา แล้วยื่นดอกกุหลาบขาวให้ผม
ผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ ผมอยากจะบอกน้ำเหลือเกินว่า ผมก็รู้สึกเหมือนกันกับน้ำ

"พี่ปิ่นกับพี่โชน เมื่อไหร่คะ"

"อาทิตย์ที่แล้ว"

"พี่ปิ่นกับพี่โชนเป็นแฟนกัน ฮะ ฮะ สมกันดีนะคะ"

น้ำตบแขนผมเบาๆแล้วเดินออกไป

"สมกันดี"

"น้ำเป็นอะไรหรือเปล่า"

น้องน้ำตกน้ำไปแล้ว ผมจะทำยังไงดีเหมือนหัวใจผมโดนฉีกเป็นชิ้นๆ
ผมยื่นมือไปให้แต่น้ำไม่ยอมจับ

"น้ำเป็นอะไรหรือเปล่า"

น้ำทำสัญญาณมือตอบผม แต่ไม่หันกลับมามอง น้ำเดินจากไปแล้ว ไปพร้อมกับหัวใจของผม




ผม...............................................................................................................................








ผมกลับมาถึงบ้าน มีรถใครจอดอยู่หน้าบ้านผมนะ พ่อโยนเสื้อ Bangkok glass มาให้แล้วแนะนำให้ผมไปรู้จักกับ อาเหน่ง อาง้วน
ผมจะได้ไปเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีม Bangkok glass ผมดีใจมากเจอแม่ก็กระโดดกอดเลย
“โชนเดี๋ยวรีบขึ้นไปเก็บของเลยนะลูก ลูกต้องไปพร้อมกับ อาเหน่ง อาง้วนคืนนี้เลย พรุ่งนี้ เข้าค่ายซ้อมกันแล้ว”
“คืนนี้เลยหรอพ่อ”
“ใช่สิ ช้าอยู่ใยล่ะลูก”

แต่น้ำ........ผมเปิดตู้เย็นออก หยิบกล่องช็อคโกแลตมาดู ยังไงวันนี้ผมก็ต้องบอกน้ำ บอกความรู้สึกของผม
ผมขึ้นไปบนห้อง เปิดสมุดที่บรรจุความรักของผมไว้ สมุดที่มีแต่เรื่องราวของน้ำ เรื่องราวที่ผมไม่เคยบอกใคร
ผมไล่เปิดดูไปเรื่อยๆ ผมเริ่มชอบน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ตอนนั้นน้ำยังหน้าดำอยู่เลย ยิ่งเปิดผมก็ยิ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เด็กผู้หญิงที่น่ารักเสมอสำหรับผม เด็กผู้หญิงที่ทำเพื่อผมมากมาย แต่ผมกลับ..................................................


ผมไปที่บ้านน้ำ เอาสมุดไปวางไว้หน้าประตูบ้าน ขอให้มันส่งถึงมือน้ำด้วยเถอะ ผมทำได้เท่านี้จริงๆ เพื่อรักษาคำสัญญาของผม



เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้านี่ผมไม่ได้เจอน้ำมา 9 ปีแล้ว ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว
แต่หันมาเป็นตากล้องแทน อาชีพที่ผมรัก มันทำให้ผมได้อยู่กับรูปที่ผมรัก
ส่วนน้ำก็ประสบความสำเร็จเป็นดีไซเนอร์ชื่อดังทำงานอยู่ที่อเมริกา




“โชนแล้วที่รายการ TV ติดต่อมาจะไปไหม ”






ผมไม่รู้ว่าน้ำจะยังเป็นน้ำคนเดิมของผมอยู่หรือเปล่า แต่อีกเดี๋ยวผมก็คงจะได้คำตอบแล้ว

“ขอเชิญคุณโชน อดีตนักฟุตบอลดาวรุ่งทีม Bangkok glass ซึ่งตอนนี้ผันตัวเองมาเป็นตากล้องมืออาชีพคะ”

ผมได้เจอน้ำแล้ว น้ำยัง "เหมือนเดิม" เลย

"ให้น้ำครับ"

ผมยื่นช่อกุหลาบให้น้ำ

"น้ำหรอคะ"

"ของน้ำครับ"

น้ำไม่เปลี่ยนไปเลย มีใครเขินได้น่ารักกว่านี้อีกไหมนะ

พิธีกรถามว่าผมมีอะไรอยากจะบอกน้ำไหม มีสิครับแต่ผมก็ไม่กล้าถามคำถามที่อยากถามที่สุดอยู่ดี
ผมไม่รู้ว่าเวลา 9 ปีได้ทำให้ความรู้สึกของน้ำเปลี่ยนไปไหม

"พี่อยากบอกน้ำว่า กระดุมเม็ดนี้ไม่ใช่ของพี่นะ พี่คิดว่าคงเป็นของไอ้ดิ่งมัน"

"อ้าว....."

"แล้วคุณน้ำละคะ มีอะไรอยากบอกพี่เข้าไหม"

"เอ่อ…คือว่า...น้ำอยากถามพี่โชนว่า..."

"พี่โชน....แต่งงานหรือยังคะ"

เป็นคำถามที่ทำให้ผมดีใจจริงๆ น้ำยังไม่เปลี่ยนไป น้ำยังเป็นน้ำของผมเสมอ

"เอ่อ...คือว่า...พี่....พี่"

"พี่ก็รอคนกลับมาจากอเมริกาน่ะครับ"

น้ำร้องไห้อีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข

แม้จะนานไปหน่อย แต่สุดท้าย "ช่วงเวลาของเรา ก็ตรงกันสักที"