Monday, September 20, 2010

ความภูมิใจเล็กๆของคนเขียนบล๊อก

อย่างที่รู้....เราเขียนบลีอกท่องเที่ยวกับร้านอาหารไว้ในมัลติพลาย

วันดีคืนดีก็จะมีคนที่ผ่านเข้ามา สอบถามข้อมูลเรื่องเที่ยวหรือร้านอาหารบ้างประปราย

บางครั้งก็มีเพื่อนๆกันนี่แหละ มาเล่าว่า ชั้นหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ พอ search google ก็เจอบล๊อกของแก


เราไม่ใช่คนดัง เขียนหนังสือก็ไม่เก่ง แต่ก็ดีใจที่สิ่งที่เราเขียนมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย

วันนี้เป็นอีกวันที่ลอง search user name ตัวเองใน google ดู แล้วก็พบว่า.........



รูปเล็กไปหน่อยแฮะ เอาง่ายๆก็คือ มีคนมาอ่านแล้วเอาลิงก์เว็บเราไปลงพันทิบ แนะนำที่พักและร้านอาหารของคนไทยในเวนิส

แอบอมยิ้มเล็กๆให้กับตัวเองอีกหนึ่งครั้ง กับความรู้สึกที่ว่า " สิ่งที่เราเขียนมีประโยชน์กับคนอื่นเหมือนกัน "

Sunday, September 5, 2010

JRP วันที่ 10 : การพัฒนาบุคลิกภาพภายใน ตอนที่ 2

ตอนที่ 1 อาจารย์จะสอนเรื่องให้คิดเชิงบวก ปรับเจตคติของเรา ส่วนวันนี้จะสอนเรื่อง EQ
อาจารย์บอกว่า เดี๋ญวนี้การจะอยู่ในสังคม หรือทำงานได้ดีกว่าคนอื่น นอกจาก IQ แล้ว EQ ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก

ไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้เลย หรือเพราะเราเรียนวิทย์มา เราเชื่ออะไรที่เป็นตรรกะมากกว่า (เกี่ยวมั้ย)

เริ่มต้นอาจารย์ให้ทำแบบทดสอบ เพื่อบอกว่าเราเป็นอย่างไร โดยคำถามจะเป็นพวก คุณมองภาพในอนาคต และมีเป้าหมายชัดเจน, คุณสามารถคุยกับคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากคุณ บลาๆๆๆ โดยให้เลือกตอบ เป็น1-5 คือ ตลอดเวลา ส่วนมาก บางครั้ง น้อยมาก แทบไม่มีเลย จากนั้นก็เขียนออกมาเป็นกราฟ ใน 5 หมวด Self Awareness, Enhance Social, Listen with Head & Heart, Innovation Inspiration, Managing Emotion ซึ่งอาจารย์บอกว่า ห้าตัวนี้คือ หลักของเรื่อง EQ นี่แหละ

ชอบที่อาจารย์สอนตีผลเรื่องนี้ คือ นอกจากจะดูตามสกอร์แล้ว อาจารย์ยังบอกว่า ถ้าเราตอบข้อสาม หรือ บางครั้ง เนี่ยเยอะเกินครึ่ง แสดงว่าเราเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ เป็นประเภทอะไรก็ได้ เออ...ก็ได้เเง่มุมอื่นนอกจากดูผลอย่างเดียว

จากนั้นก็ให้เราคิดข้อดี ข้อเสียของตัวเอง แล้วก็ทำ workshop โดยให้เดินไปหาเพ่ือนๆ เล่าข้อดีของเราให้ฟังอย่างน้อย ห้าข้อ โดยต้องมีเหตุผลประกอบนะ ไม่ใช่ว่า หนูเป็นคนยิ้มง่ายค่ะ จบ ไม่ได้ ต้องอธิบายต่อ เวลาเจอใครหนู่ก็ยิ้ม เพื่อนๆก็บอกว่าเห็นเเล้วอรมณืดี โน่นนี่นั่น อะไรก็ว่าไป อาจารยืบอกว่าเพื่อฝึกให้เรารู้จักตัวเอง รู้สึกดีกับตัวเอง และมองตัวเองในแง่บวก แถมบอกอีกว่าใครที่คิดข้อเสียขอตัวเองได้มากกว่าข้อดี มีแนวโน้มจะเป็นคนมองโลกแง่ร้าย และ EQ ไม่ค่อยจะดี

จากนั้นก็เน้นสอนเรื่องให้มีสติ รู้จักตัวเอง รู้ว่าตอนนี้อารมณ์ไหน และจะทำอย่างไร ถ้าโกรธก็ต้องหาทางระบายออก เพราะถ้าสะสมนานๆ จะเหมือนระเบิดเวลา อย่าโกรธ หรือเสียใจ แล้วนอนๆ ให้หลับไป ไม่ดี

ให้ดูว่าอารมณืโกรธของเราอยู่ที่ไหน ถ้าโกรธแล้วมือสั่น ก็ให้ไปเล่นกีฬาที่ใช้มือ ถ้าโกรธแล้วปากสั่น ก็ไปร้องเพลง อะไรอย่างงี้ ส่วนคนที่เก็บกด โกรธแล้วร้องไห้ หรือทำอะไรไม่ถ฿กให้หาทางระบาย อาจจะเริ่มจากลองหัดตะโกนเสียงดังๆ ดู (ในเวลาที่ไม่มีคน และไม่รบกวนคนอื่นนะ) แล้วอาจารยืก็ให้เพื่อนสองคนในห้องลองทำดู เพราะสองคนนั้นบอกว่าเค้าเก็บกด เวลาโกรธ ไม่พอใจ จะทำไรไม่ถูก ร้องไห้

จากนั้นอาจารย์ก็ถามเราว่า จะลองมั้ย เราบอกว่าไม่เป็นไร อาจารย์บอกว่า น่าจะฝึกไว้นะ เพราะเราดูเป็นคนเก็บกดอยู่เหมือนกัน

ฟังอาจารย์จิตวิทยาพูดแบบนี้ แล้วแอบเครียดนะเนี่ย ตูเก็บกดเหรอเนี่ย เพิ่งรู้