เรียนเรื่องทรงผม เป็นคลาสที่หนักใจ เพราะหัวเรา...ก็เป็นอย่างที่เห็น
อาจารย์สอนให้เข้าใจ ธรรมชาติของผมแต่ละคน และปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเวลาตัดผม พึงระลึกไว้เสมอว่า รูปหน้า ลักษณะเส้นผมคนเราต่างกัน ฉะนั้นการที่เห็นว่าเพื่อนเรา หรือ ดารา ตัดทรงนี้สวยแล้วจะไปตัดตามเค้านั้น ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้อย่างที่เราคิด
หลักๆเลยที่ต้องคำนึงคือ
1. รูปหน้า หน้ากลม รูปไข่ หน้าเหลี่ยม เราต้องเลือกทรงผมที่รับกับหน้า
2. เส้นผม ว่าผมเราตรง หยักศก หยิก
3. ขนาดเส้นผม เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เอ๊ย ไม่ใช่
4. ลักษณะการงอกของเส้นผม ทิศทางการงอกแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนผมล้มไปทางซ้าย แต่ดันจะมาแสกขวาก็คงจะไม่ได้
5. บุคลิก อายุ (เพราะเค้าเน้นเรื่องทำผมให้เข้ากะบุคลิก
นอกนั้นก็มีอีกนิดหน่อย แต่เราจำไม่ได้เเล้วอ่ะ (เรียนมาเเกือบเดือนเพิ่งมาอัพ)
อาจารย์สอนด้วยว่า เวลาไปตัดผมควรจะแต่งตัว แต่งหน้าเหมือนชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เสื้อยืด ขาสั้น ลากแตะ หัวโทรมๆไป เพราะช่างผมที่เก่งๆน่ะ เค้าจะสังเกตุบุคลิกท่าทางของเราด้วยเพื่อที่ว่าจะออกแบบผมให้เข้ากับบุคลิก
ทรงผมก็ต้องดูแลด้วย เพราะส่งผลต่อการแต่งกาย ถ้าหัวโทรมเราก็จะไม่ค่อยอยากแต่งตัวสวยๆ (เออ..ข้อนี้จริง ช่วงนี้เราเเต่งตัวแต่งหน้าโ?รมตลอด เพราะรู้สึกว่าทรงผมทรงนี้มันเซอร์ๆ)
สำหรับหัวเรา อาจารย์บอกว่าดี ทรงนี้ก็โอเค แต่ว่ามันทำให้เราตัวใหญ่ ต้องระวัง (เพราะเป็นคนตัวใหญ่อยู่แล้ว ผมสั้นยิ่งดูตัวใหญ่เข้าไปอีก) ทาง JRP เค้าให้คูปองไปตัดผมฟรีที่ร้านอาจารย์มาหนึ่งใบ ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งตัดผมได้สองเดือน เเต่เราก็รู้สึกว่ามันเริ่มโทรม (คิดไปเองอ่ะ) ก็เลยไปให้อาจารย์ตัดให้
อาจารย์บอกว่า ทรงนี้ดีอยู่เเล้ว ทรงสวยดัดกำลังดี เข้ากะบุคลิกเราด้วย จริงๆไม่ต้องตัดก็ได้ อ้าว ซะงั้น แต่เราว่ามันดูโทรมๆอ่ะ ก็เลยบอกอาจารย์ช่วยปรับให้หน่อย (คิดไปคิดมา รู้งี้ยังไม่ไปตัดก็ดีอ่ะ รอให้เสียทรงค่อยไปตัด)
ออกมาเป็นแบบนี้ อาจารย์บอกว่ามันเป็นทรงคล้ายๆเดิมแหละ แต่เซ็ทคนละแบบ อ้อ เอาบ๊อบเทออกด้วย เพราะว่าเราไม่ชอบบ๊อบเท
Before (เลือกรูปด้านข้างเห็นผมชัดๆ)
After
Sunday, August 29, 2010
Sunday, August 22, 2010
JRP วันที่ 8 : แต่งหน้้า ตอนที่ 2
วันนี้เรียนแต่งหน้าคลาสที่สอง เริ่ม Advance ชึ้นมา คือเพิ่มเขียนคิ้ว แต่งตาด้วยอายแชโดว์สองสี นอกนั้นก็คล้ายๆเดิม
เราก็..แต่งได้แหละ เเต่ต้องให้อาจารย์ช่วยซ่อมให้เล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะเขียนคิ้วเข้มเกินเหตุ และเขียนตาดูไม่มีมิติ จนต้องเพิ่มอายแชโดว์สีที่สาม (ได้ข่าวว่าตอนเริ่มแต่งเค้าให้ใช้สองสีไม่ใช่เรอะ)
ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีไรมาก เรียนจบไปเที่ยวกะอุ๋มต่อ ถามอุ๋มว่าดูแตกต่างจากปกติมั้ย อุ๋มบอกว่าก็เหมือนทุกทีที่แต่งอ่ะ ง่ะ....ฝีมือเค้าไม่ได้ดีขึ้นเลยเหรอเนี่ย เเง่มๆ
เราก็..แต่งได้แหละ เเต่ต้องให้อาจารย์ช่วยซ่อมให้เล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะเขียนคิ้วเข้มเกินเหตุ และเขียนตาดูไม่มีมิติ จนต้องเพิ่มอายแชโดว์สีที่สาม (ได้ข่าวว่าตอนเริ่มแต่งเค้าให้ใช้สองสีไม่ใช่เรอะ)
ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีไรมาก เรียนจบไปเที่ยวกะอุ๋มต่อ ถามอุ๋มว่าดูแตกต่างจากปกติมั้ย อุ๋มบอกว่าก็เหมือนทุกทีที่แต่งอ่ะ ง่ะ....ฝีมือเค้าไม่ได้ดีขึ้นเลยเหรอเนี่ย เเง่มๆ
Wednesday, August 18, 2010
ก็เป็นซะอย่างเงี๊ย
เกริ่นก่อนนะ คือเราโดนแฟนเราบ่นบ่อยมากว่า เราน่ะความรู้สึกช้า ไม่เคยรู้สึกเลยว่าใครเค้ามาชอบ หรือไอ้เพื่อนชายที่คุยๆกันอยู่น่ะ มันจีบเราอยู่นะ (ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองดูดีนี่หว่า การจะมองว่าใครเข้ามาคุยด้วยแสดงว่าเค้าชอบเนี่ย มันหลงตัวเองเกินไป) จนครั้งนึงไปดูหนังกะพี่ผู้ชายคนนึง เค้าเอื้อมมือมาจับมือเราตั้งแต่ต้นเรื่อง ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จะสะบัดออกก็ไม่กล้า ดูหนังก็ไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่คิดว่าเอาไงดีวะกู จะเอามือออกจังหวะไหนดีวะ ไม่ให้น่าเกลียด จากครั้งนั้นเลยรู้สึกว่า...ต่อไปเราจะต้องหลงตัวเองละ มองว่าชายหนุ่มทุกคนบนโลกใบนี้ที่เข้ามาคุยกะชั้นคือจะจีบชั้นแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
และอย่างที่เพื่อนๆรู้ ว่าแฟนเรายังไม่อยากแต่งงาน ซึ่ง...ทำให้เราเกิดอาการเซ็งจนคิดจะหาแฟนใหม่หลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่มีใครผ่านเข้ามาในชีวิตซักที
จนล่าสุด..ไปเรียน JRP รู้จักผู้ชายคนนึง เรียนคลาสเดียวกันบ่อย แต่เค้าเรียนจบละ (เพราะเราโดดบ่อย อิอิ) วันสุดท้ายที่เจอกันเค้าขอเบอร์ไป เผื่อว่ามีโอกาศได้ติดต่อกัน ก็ให้ไปแหละ ไม่คิดไรหรอก เพราะเราเป็นคนเห็นความสำคัญเรื่อง Connection อยู่แล้ว เผื่ออนาคตอาจได้ติดต่อกันก็ได้ใครจะไปรู้ สองวันผ่านไปเค้าโทรมา ตกใจอ่ะ โทรมาทำไม ไม่มีธุระซะหน่อย จะจีบชั้นรึป่าวเนี่ย ไม่เอา กลัวๆๆๆ ก็เลย...ไม่ยอมรับโทรสับเค้าซะงั้น -_-" (จริงๆเค้าอาจจะมีธุระก็ได้นะ)
พอตั้งใจจะว่าจะลองเปิดโอกาสตัวเองรู้จักคนใหม่ๆก็ไม่มีคนใหม่เข้ามาเลย (สงสัยเพราะอายุเยอะแล้ว) พอ(เหมือนจะหลง)เข้ามาคนนึง กลับกลายเป็นว่ากลัว ไม่กล้าซะงั้น เฮ้อ... ก็เพราะเป็นซะอย่างเงี๊ย ก็คงต้องใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปอ่ะ
วันนี้ป่วยนอนอยู่บ้าน แต่อยากกิน ข้าวไข่ข้นซอสต้มยำกุ้ง เลยลุกขึ้นมาทำกินซะเลย หน้าตาอาจดูไม่ดี แต่อร่อยนะจ้ะ
และอย่างที่เพื่อนๆรู้ ว่าแฟนเรายังไม่อยากแต่งงาน ซึ่ง...ทำให้เราเกิดอาการเซ็งจนคิดจะหาแฟนใหม่หลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่มีใครผ่านเข้ามาในชีวิตซักที
จนล่าสุด..ไปเรียน JRP รู้จักผู้ชายคนนึง เรียนคลาสเดียวกันบ่อย แต่เค้าเรียนจบละ (เพราะเราโดดบ่อย อิอิ) วันสุดท้ายที่เจอกันเค้าขอเบอร์ไป เผื่อว่ามีโอกาศได้ติดต่อกัน ก็ให้ไปแหละ ไม่คิดไรหรอก เพราะเราเป็นคนเห็นความสำคัญเรื่อง Connection อยู่แล้ว เผื่ออนาคตอาจได้ติดต่อกันก็ได้ใครจะไปรู้ สองวันผ่านไปเค้าโทรมา ตกใจอ่ะ โทรมาทำไม ไม่มีธุระซะหน่อย จะจีบชั้นรึป่าวเนี่ย ไม่เอา กลัวๆๆๆ ก็เลย...ไม่ยอมรับโทรสับเค้าซะงั้น -_-" (จริงๆเค้าอาจจะมีธุระก็ได้นะ)
พอตั้งใจจะว่าจะลองเปิดโอกาสตัวเองรู้จักคนใหม่ๆก็ไม่มีคนใหม่เข้ามาเลย (สงสัยเพราะอายุเยอะแล้ว) พอ(เหมือนจะหลง)เข้ามาคนนึง กลับกลายเป็นว่ากลัว ไม่กล้าซะงั้น เฮ้อ... ก็เพราะเป็นซะอย่างเงี๊ย ก็คงต้องใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปอ่ะ
วันนี้ป่วยนอนอยู่บ้าน แต่อยากกิน ข้าวไข่ข้นซอสต้มยำกุ้ง เลยลุกขึ้นมาทำกินซะเลย หน้าตาอาจดูไม่ดี แต่อร่อยนะจ้ะ
Monday, August 9, 2010
love me love my mom
Sunday, August 8, 2010
Wednesday, August 4, 2010
HAPPY BIRTHDAY TO ME
(เค้กวันเกิดที่แผนกจ้า มีชื่อสองคนเพราะมีเพื่อนอีกคนเกิดใกล้ๆกัน)
แก่ขึ้นอีกปีแล้วเรา ปีนี้ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ส่งข้อความ หรือโทรมาอวยพรทุกๆคนเลย ก้าป เก๋ แก้ว พี่วิน จอม แอม หน่อง ฟ้า นัสเซอร์ โน๊ต ป่าน พี่เอ้ เควิน พี่ปริน น้องฝน พี่ปลา เปิ้น น้องสาว พิม อ้อ เบนจี้ นุ้ย พี่ติ๋ง พี่จี พี่ออย ต่าย พี่แจ๊ค น้องตี้ เฟิร์ส เต่า พิมมี่ เน๊ะ ขวัญ เอ้(ทำมะสาด) เชอรี่ น้องโอ๋ ม่อน น้องแจง สุดท้ายก็คนในครอบครัว ป้าแดง ป้าเล็ก พี่ปอนด์ พี่แบงก์ พ่อ แม่ พัฒน์ ขอบคุณนะคะ
เมื่อวันอาทิตย์พ่อกะแม่ก็พาไปเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้า (ไปกันสามคน ไม่มีพี่แบงก์อ่ะ) ขอบคุณคุณแม่นะคะ รักพ่อกะแม่ที่สุดเลย
Subscribe to:
Posts (Atom)