เอาล่ะ ! เล่าที่มาที่ไปพอสมควร ก็ขอพูดถึงครั้งแรกที่ไปไต้หวันก็แล้วกัน ไต้หวันมีอะไรดี ? แน่นอนอย่างแรกที่จะพูดถึงคือ ถ่าย Prewedding นั่นเอง............... ก็เค้าเป็นต้นตำหรับเลยนะ ครั้งแรกที่เราไปไต้หวันก็คือไปถ่าย prewedding และเตรียมการเรื่องงานแต่งงานนั่นเอง (ของในงานแต่งเราหลายๆอย่างนี่เอามาจากไต้หวันนะ)
ที่โน่นก็มี Wedding Studio เยอะนะ เยอะมากกกกก วันแรกเราไปเดินวนซะเหนื่อยเลย แต่สรุปก็มาถ่ายร้านที่ลูกพี่ลูกน้องสามีเพิ่งถ่ายไป ร้านดังไม่ดังเราไม่รู้หรอก ต่อรองอะไรบ้างเราก็ไม่รู้อีก 555 ตูนั่งเฉยๆ คุยไม่รู้เรื่อง และเราถ่าย Package เล็กสุด ประมาณ 20,000 บาท ถ่ายแต่ในสตู เปลี่ยน 3 ชุด เลือกรูปใส่อัลบั้มได้ 12 รูป (มั้งจำไม่ได้ แล้วถึงเวลาเราเลือกเพิ่มอีดนิดนึงเป็น 17 รูป)
สิ่งที่ได้ก็มี
1.อัลบั้มรูปอันสวยงาม
2.กรอบใหญ่ 1 รูป + กรอบเล็กตั้งโต๊ะ 2 อัน ซึ่ง.....กรอบใหญ่แบกกลับไทยลำบากอีก ก็เลยเอาแต่รูปขยาย (เพราะคุณภาพกระดาษที่โน่นดีกว่าไทย) แล้วเราเอามาใส่กรอบที่ไทยเอง ส่วนกรอบเล็ก...ก็ให้คุณตาคุณยายที่ไต้หวัน ไม่ได้เอากลับมา
3.การ์ดเชิญ VIP มีรูปเราติด เลือกได้ 2 รูป อย่างละ .....2 ใบมั้ง จำไม่ได้แล้วอ่ะ
4. สมุดเขียนคำอวยพร มาเป็นคัมภีร์ม้วน 1 เล่ม
แต่งหน้าทำผม ถ่ายพรีฯ ........อันนี้ก็มีประสบการณ์แปลกใหม่นะ คือ.... โกนหนวด !!!! ช่างบอกว่าต้องโกนเพราะแต่งหน้าจะไม่เนียน ไม่สวยนะ บลาๆๆ (อยู่เมืองไทยไม่เคยต้องโกน ก็แต่งแล้วสวยเนียนดีนะเจ๊) การแต่งหน้าที่นี่ก็แต่งไม่เหมือนไทย ดูจากรูปนะ ไม่รู้ดูออกมั้ย ช่างจะติดขนตาล่างตำ่กว่าขอบตาจริงของเรา และทาไลเนอร์สีขาว เพื่อให้ดูตาโต มองตัวเองในกระจกดูแปลกๆ แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วงามมมม
ช่างที่นี่ดูอนามัยดีนะ ใส่ผ้าปิดปากด้วย
รูปออกมา สวยนะ เราชอบ ไม่เหมือนที่ไทย คนละแนวกัน หมวยเนอะ ว่ามั้ย (ตอนถ่ายก็ฟังตากล้องไม่รู้เรื่องอีก สามีต้องคอยแปลว่าเค้าให้ หันซ้าย หันขวา ก้มหน้า ฯลฯ)
อันนี้เป็นสมุดเขียนอวยพรที่ได้มาพร้อม Package นะ เราชอบ เก๋ๆดี มาเป็นม้วนคัมภีร์ มีหน้าบ่าวสาวด้วย
นอกจากถ่ายพรีฯแล้วเราก็ทำการ์ดเชิญด้วย เราอยากได้การ์ดแบบจี๊นจีน ซึ่งที่นี่การ์ดแบบนี้สวยๆทั้งนั้น กระดาษก็ดีกว่าไทย ซองก็สวยกว่า ราคาจำไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ว่าไม่แพง (เราต้องทำ Artwork ไปอ่ะ เค้าพิมพ์ไทยไม่ได้ เราทำไปหมดให้ร้านพิมพ์อย่างเดียว) ซึ่งเกิดปัญหานิดหน่อยว่า รูปหัวใจที่เราใส่ในการ์ด เข้าคอมที่ร้านแล้วมันไม่ขึ้น ร้านก็จะให้เราแก้ ........แต่เราอ่านคอมเค้าไม่ออกเว้ยเฮ้ย คำสั่งเป็นภาษาจีนหมด แถมเราพูดทับศัพท์อย่างเช่น insert อะไรงี้ ร้านไม่เข้าใจ ฮือออออ... ต้องช่วยกันงมทีละคำสั่งว่าจะเอาอะไร
จากรูปอาจจะดูการ์ดไม่ค่อยออกนะ แต่มันไม่ใช่การ์ดแดงเรียบๆ มีลายสีทองรูปหงส์กับมังกรอยู่ทั่วการ์ด
ของชำร่วย....เราก็ซื้อกล่องมาจากไต้หวัน (ซื้อจากพวกสำเพ็งอะไรงี้แหละ) น่ารักนะ เราชอบมากเลย คือ....เรามองว่า ไหนๆมันก็ต้องจีนแล้ว ก็เอาให้มันสุดๆทางไปเลย อย่าครึ่งๆกลางๆ (แต่ตัวป้ายห้อยนั่นเรามาสั่งทำในไทยนะจ้ะ)
สุดท้าย......ชุดแต่งงาน แน่นอนว่าชุดเจ้าสาวสีขาว เช่ามาจากไต้หวัน (หอบกลับมาด้วย ลำบากชิบเป๋งเลย แต่ที่นี่น่ะ เช่ามาเค้ารวมเซ็ตเครื่องประดับ ถุงมือ ผ้าคลุมผมด้วย แต่ตอนงานแต่ง เราไม่ได้ใส่ ......ก็คิดนะว่า ตูจะแบกมาทำไมฟะ หนัก แต่เค้าให้มา ก็เอามาก่อนวุ้ย เผื่อเหลือเผื่อขาด) และการที่ว่ามันอยู่คนละประเทศ ฉะนั้นเค้าต้องแก้ชุดให้พอดีตัวเราตั้งแต่วันที่เราเอาชุดกลับมาไทย (ก่อนแต่ง 2 เดือนได้) แล้วยังไงคะ ดิชั้นอ้วนขึ้นค่ะ ก่อนแต่งงาน 2 อาทิตย์มาลองอีกที เฮ้ย !!! รูดซิบไม่ขึ้น ซวยแล้วตู ทำไงดีฟะ จะเอาไปแก้ไซส์ก็ไม่ได้ เดี๋ยวเกิดแก้ที่ไทยแล้วมีปัญหาเอากลับไปโดนริบเงินประกัน คิด คิด คิด ...... ลดความอ้วนเท่านั้นคือทางออก แล้วยังไง 2 อาทิตย์ลดยังไงจะได้ฟะเนี่ย จัดสูตรลดน้ำหนักพระราชทาน 7 วัน ครบคอร์ส ชุดหลวมทันที ต้องคอยดึงตลอดงาน ชีวิตนี้ไม่มีความพอดีเล๊ยยยยย (สูตรลดน้ำหนักอันนี้เป็นสูตรที่ทรมาณมากนะ ชาตินี้จะไม่ขอใช้สูตรนี้อีก) และเราซื้อชุดกี่เพ้ามาอีกชุด (ใส่ทั้งในงานแต่ง ทั้งพรีเวดดิ้ง) แล้วอีชั้นเป็นมนุษย์ตัวสูงเกินมาตรฐานสาวไต้หวันนะ ชุดมันเต่อ !!! ต้องให้ช่างแก้ แต่มันเป็นชุดดิ้นทองจะมาตัดๆต่อๆ ก็ไม่ได้ ก็เลยต้องตัดมาจากกี่เผ้าลายเดียวกันนี่แหละ อีก 1 ตัว (พอดีว่ามันมี 2 ตัวพอดี รอดไป ไม่งั้นชั้นก็ต้องหาชุดที่ถูกใจใหม่)
การไปครั้งแรกเป็นอะไรที่วุ่นวาย งงๆ ก๊งๆ สื่อสารกับใครไม่ได้เลยจริงๆ ต้องให้คุณแม่สามีเป็นล่าม (เพราะเดินซื้อของดูของกับคุณแม่สามีตลอด) แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ และสนุกสุดๆที่ได้ถ่ายพรีฯที่นี่
No comments:
Post a Comment