แต่อยู่ไต้หวันไม่ต้องกลัว สามารถหากินได้และร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านโปรดของเราอีกเช่นกัน
ร้าน หย่าง ซิน ฉา โหล (養心茶樓) หรือชื่อภาษาอังกฤษเขียนว่า Yang Shin Vegetarian Restuarant เป็นร้านติ่มซำมังสวิรัติค่ะ ไม่มีเนื้อสัตว์
สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี Songjiang Nanjing ออกทางออกที่ 8 แล้วเดินต่อมานิดนึงค่ะ ร้านจะอยู่ชั้น 2 ของตึกเลขที่ 128 ตึกนี้จะอยู่ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพค่ะ หาไม่ยาก
ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ธนาคารกรุงเทพ Bangkok Bank ของไทยเรานี่แหละ (ใหญ่ มองเห็นชัดเจนค่ะ)
สำหรับเวลาเปิดปิดนะคะ
วันจันทร์ - ศุกร์ :
รอบเที่ยงเปิด 11.30-14.20 น. (Last Order 13.30 น.)
รอบบ่ายเปิด 14.30-16.30 น. (Last Order 16.00 น.)
รอบเย็นเปิด 17.30-21.30 น. (Last Order 20.30 น.)
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ :
รอบเที่ยง A เปิด 11.00-12.45 น. (Last Order 12.10 น.)
รอบเที่ยง B เปิด 13.00-14.45 น. (Last Order 14.10 น.)
รอบบ่ายเปิด 15.00-16.45 น. (Last Order 16.10 น.)
รอบเย็น A เปิด 17.30-19.15 น. (Last Order 18.40 น.)
รอบเย็น B เปิด 19.30-21.30 น. (Last Order 20.30 น.)
รอบบ่ายเมนูจะน้อยกว่ารอบเที่ยงและเย็นค่ะ
*** ต้องโทรจองโต๊ะก่อนนะคะ เพราะว่าคนเยอะมากจริงๆ Walk-in จะไม่มีโต๊ะค่ะ เบอร์โทรร้าน +(886)2-2542-8828 (Chinese Only) ***
เวบของร้าน www.ysvege.com
บรรยากาศร้าน
รูปนี้เป็นวันที่เรามาเร็วค่ะ โต๊ะเลยว่าง คนยังไม่มา (เรามาหลายครั้งแล้ว)
รูปนี้เป็นตอนที่มาช้าหน่อย คนเต็มค่ะ ทุกโต๊ะ
ตรงหน้าเคาเตอร์ต้อนรับ จะเป็นห้องครัวกระจกค่ะ สามารถมองเห็นพ่อครัวทำอาหารด้วย
เมนูค่ะ เมนูสวยมาก เห็นแล้วอยากกินซะทุกอย่าง
อาหารก็จะเหมือนร้านอาหารจีนบ้านเราค่ะ มีทั้งติ่มซำ ทั้งอาหารทั่วไป รวมไปถึงบะหมี่หรือข้าวผัด (แต่ที่ขาดไม่ได้ของไต้หวันต้องมี hotpot นะคะ)
ส่วนนี่เป็นอาหารที่เราเคยสั่งค่ะ อร่อยทุกอย่าง (เราไม่ได้เรียกชื่อตามเมนูนะคะ เราเรียกง่ายๆเพื่อความเข้าใจง่าย) >>> ไม่ได้ถ่ายมารอบเดียวกันนะคะ มีทั้งกล้องใหญ่และกล้องมือถือ รวบรวมมาโพสต์ทีเดียว
เริ่มที่ติ่มซำก็แล้วกันนะ
เสี่ยวหลงเปา
ของนึ่ง
ก๋วยเตี๋ยวหลอด
สารพัดของทอด
**จริงๆ หนึ่งจานจะมี 3 ชิ้น แต่ว่าบางเมนูเราสั่ง 2 จาน เค้าก็จะใส่รวมมาให้ค่ะ (เราขอให้เค้าหั่นให้ จะได้แชร์กันง่ายๆด้วย)
บวบยัดไส้ (อันนี้เมนู Top 20 ของร้านเลยค่ะ)
เป็ดปักกิ่ง
ฟองเต้าหู้ทอด ซอสงา
เต้าหู้เหม็นทอด
ลูกชิ้นอบหม้อดิน
ซุปเต้าหู้กับถั่ว (ที่เห็นเส้นๆนั่น ไม่ใช่เส้นหมี่นะคะ เป็นเต้าหู้)
จานนี้เป็นสตูว์ฟักทองกับเต้าหู้ค่ะ เวลาเสิร์ฟจะเอาสตูว์ฟักทอง+เห็ด ราดไปบนเต้าหู้ (สีขาวนั่นคือเต้าหู้)
จานสุดท้าย....เราชอบกินเป็นของหวานค่ะ นั่นคือ ทาร์ตไข่ จานนี้เด็ดจริงๆ
ทาร์ตไข่ของที่นี่มีความพิเศษคือด้านบนเป็นไข่คัสตาร์ตเหมือนที่อื่นๆ แต่ว่าด้านในจะเป็นคาราเมลค่ะ (สังเกตสีน้ำตาลๆเยิ้มๆ) เป็นทาร์ตไข่ที่เสิร์ฟเย็นนะคะ ไม่ได้มาร้อนๆ โอยยยย พูดแล้วอยากกินเลยอ่ะ
ทาร์ตไข่ต้องรีบสั่งนะคะ เราเคยคิดช้ากะว่ากินคาวเสร็จค่อยสั่ง ปรากฏว่าหมดค่ะ ช้ำใจมากกกกกกกกก
หมดแล้วค่ะ สำหรับของกิน ต่อไปเป็นเรื่องที่อยากจะเล่า 555 รอบล่าสุดที่ไป เค้าทำระบบเรียกพนักงานใหม่ค่ะ เป็นแท่งสี่เหลี่ยมเล็กๆ วางบนโต๊ะ แบบนี้
แต่ละด้านจะมีรูปไม่เหมือนกัน
เค้าจะมีคำอธิบายไว้ค่ะ ว่าแต่ละด้านหมายถึงอะไร แต่ดูรูปก็เข้าใจง่ายล่ะ เป็นเติมน้ำ สั่งอาหาร ห่อกลับบ้าน อะไรงี้
พอเราต้องการอะไรก็เอารูปภาพนั้นไว้ด้านบน แล้ววางบนแท่นของเค้า แบบนี้
ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อค่ะ ทำแค่นี้พนักงานจะรู้ได้ไงว่าเราเรียก แต่เค้ารู้จริงๆค่ะ ไม่รู้ว่าใช้ระบบยังไง แปลกดีค่ะ ก็เป็นอะไรแปลกๆใหม่ๆที่ยังไม่เคยเจอในเมืองไทย
สำหรับราคาอาหารนะคะ ติ่มซำมีราคาตั้งแต่ 68-128 เหรียญ (ดูตามรูปเมนูด้านบนค่ะ) ส่วนอาหารอื่นๆก็ 200-400 เหรียญ โดยรวมเราชอบหมดทุกอย่าง ใครจะสั่งอะไรมาเรากินหมด แต่ของโปรดเราจริงๆ ที่รีเควสของสั่งเลย (ความชอบส่วนตัวนะ) คือ Ham Sui Kok ไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไร มันจะเป็นแป้งข้าวเหนียวทอดยัดไส้ค่ะ (เป็นเมนูติ่มซำ มีแทบทุกร้าน) กับเจ้าทาร์ตไข่นี่แหละ
ร้านนี้อาหารอร่อยจริงๆ คนไม่กินมังสวิรัติก็อร่อยได้ค่ะ เราจะไม่รู้สึกเลยว่าที่กินเข้าไปให้สัมผัสแปลกๆ แค่รู้สึกว่าไส้ไม่ใช่ติ่มซำแบบที่เราคุ้นเคยแค่นั้นเอง
ตามมาลองได้นะคะ มาไม่ยากด้วย ตามแผนที่เลยค่ะ