TAIWAN : กิน French Toast @ Sarabeth's

Sarabeth's  เป็นร้านอาหารที่นิวยอร์ก แต่มาเปิดสาขาที่ ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน   เมนูยอดนิยมและขึ้นชื่อของร้านก็คือ French Toast และ Eggs Benedict   (ในเวบของบอกว่าเป็น No.1 Dessert Restaurant in New York เลยนะ)

ที่ไต้หวัน มีทั้งหมด 3 สาขา

1. ชั้น B1 ห้าง Sogo สาขา Dun Hua (敦化 อ่านว่า ตุน ฮว่า)  ที่ไทเป

2. ชั้น 2 ห้าง Sogo สาขา Tian Mu (天母 อ่านว่า เทียน หมู่) ที่ไทเป

3. ชั้น 2 ห้าง Sogo สาขา Zhong Li (中壢 อ่านว่า จงลี่) ที่เถาหยวน

สาขาที่เราไปกิน คือสาขาที่ Sogo Dun Hua  สามารถนั่งmrt มาลงที่สถานี Zhongxiao Dunhua ออก ทางออกที่ 6 ได้

ร้านก็อยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟ Coffee Lover's Planet ที่เราเคยแนะนำไป  เรียกได้ว่ามาที่เดียว ทีร้านดีๆตั้ง 2 ที่เลยทีเดียว >> รีวิวร้าน Coffee Lover's Planet

Sarabeth's  สาขานี้  เปิดทุกวัน 9.00 -21.30 น. ถ้าไปช่วงเที่ยงก็คนเยอะ อาจจะต้องรอคิว  แนะนำว่าไปเร็วหน่อย หรือไปช่วงบ่ายๆจะดีกว่า

เวบของร้าน https://www.sarabeth.com.tw/

เฟสของร้าน  https://www.facebook.com/SarabethsTaiwan/

หน้าร้าน

บรรยากาศในร้าน

 

 เมนูมีภาษาอังกฤษ และพนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ค่ะ

 อย่างที่บอกว่าของดังของที่นี่คือ  French Toast กับ Eggs Benedict  แต่เราไม่ชอบกิน Eggs Benedict ซักเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้สั่ง

 Fat and Flufffy French Toast  อร่อยค่ะ นุ่ม หอม  แต่โดยส่วนตัว ไม่ได้ชอบกิน French Toast  ก็เลยไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษ  (ไม่ชอบทั้ง   French Toast ทั้ง Eggs Benedict ซึ่งเป็นของดังของร้านนี้เลย 555)   จานนี้ราคา 380 เหรียญ

สำหรับเมนูไข่ จะเสิร์ฟกับขนมปัง มีให้เลือกทั้ง อิงลิชมัฟฟิน, คอร์นมัฟฟิน, ครัวซองค์ และ Four Grain Bread

Spinach-Gruyere Cheese White Egg Omelette  เสิร์ฟกับ Four Grain Bread ราคา 380 เหรียญ

Vegetable-Ricotta Frittata เสิร์ฟกับมัฟฟิน (Frittata คือ ไข่เจียวสไตล์อิตาเลียน)

 ถ้าเลือกเป็นมัฟฟิน ก็จะมีแยมกับเนยมาให้ด้วย

 เมนูนี้เคยสั่งซ้ำ  แต่คราวนี้รู้สึกว่าจะสั่งกินกับ อิงลิชมัฟฟิน

เมนูไข่เค้าอร่อยค่ะ ไข่นุ่มมาก    (แบบใส่เนื้อสัตว์ พวกแซลมอน เบคอนก็มีนะคะ แต่ว่าเรากินมังสวิรัติเป็นส่วนใหญ่)
 

มาดู Waffle กันบ้าง  Waffle ที่นี่จะเป็นสไตล์แป้งกรอบ  ซึ่งเราชอบมากกกกกก  (เราไม่ชอบแป้งหนานุ่มฟู  แบบที่เค้าฮิตๆกัน)   ดังนั้นสำหรับเราคือ Waffle ที่นี่อร่อยมากจริงๆ

Pumpkin Waffle   จะใส่ลูกเกด กับ เมล็ดฟักทอง เสิร์ฟกับน้ำผึ้ง (จานนี้เราไม่ได้กิน  วันที่สามีสั่ง เราไม่ได้ไปด้วย) แต่เค้าบอกว่า Waffle อร่อย เป็นเหตุให้เราไปกินนี่เอง 555

Spiced Ginger and Chocolate Waffle  จะใส่ช็อกโกแลตบอล แผ่นคาราเมล Ginger Candy เสิร์ฟกับซอสช็อกโกแลต

 

สรุปแล้วเป็นอีกร้านที่น่าสนใจค่ะ  เราว่า เมนูไข่ กับ Waffle เค้าอร่อย    แต่ก็ต้องบอกไว้หน่อยว่าราคาค่อนข้างแพง  (ราคาที่หน้าร้าน ไม่ตรงกับในเวบนะคะ  ในเวบอาจจะเป็นราคาเก่า)   อย่างเจ้า Spinach-Gruyere Cheese White Egg Omelette ราคา 440 เหรียญ,  Spiced Ginger and Chocolate Waffle ราคา 420 เหรียญ  ยังไม่รวม Service Charge 10 %   กินแค่สองอย่างก็เกือบพันเหรียญแล้ว  (เราเคยถ่ายรูปใบเสร็จไว้ เลยจำราคาได้)



แผนที่ร้าน

TAIWAN : จิบกาแฟ @ Coffee Sweet

Coffee Sweet เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่แอบอยู่ย่านจงซาน (Zhongshan)  ที่บอกว่าแอบเพราะว่าร้านหายากค่ะ  มองผ่านๆไม่คิดว่าเป็นร้านกาแฟ  แถมบาริสต้าก็เป็นคุณลุงอีกด้วย

Coffee Sweet เป็นร้านกาแฟที่เน้นชงแบบ Syphon  มีเมล็ดกาแฟให้เลือกเยอะมาก เพราะว่าร้านคั่วเองด้วย  ขนมก็มีนะคะ

รีวิวนี้จะเขียนอย่างสั้นมาก  เพราะร้านนี้ห้ามถ่ายรูป

สามารถนั่ง MRT ลงสถานี Shandao Temple Station แล้วเดินต่อประมาณ 600 เมตร  ร้านจะอยู่หลังสนามบาสและสวนหย่อมเล็กๆ

เวลาเปิดปิด

วันจันทร์-ศุกร์ เวลา  9.30-18.30 น.
วันเสาร์ เวลา 15.30-18.30น.
ปิดวันอาทิตย์

หน้าร้านค่ะ

 กาแฟที่สั่ง (เป็นSyphon)  หอม อร่อย ดีมากกกกก   เมล็ดมีให้เลือกเยอะจนตาลาย เลือกไม่ถูกจริงๆ  แต่กินมาหลายแก้วก็อร่อยทุกแก้ว ไม่ว่าจะเลือกเมล็ดอะไรก็ตาม

ขนมของที่ร้านค่ะ สารภาพว่ายังไม่ได้กินซักอย่าง เพราะว่าสามีเคยไปกินมาก่อน แล้วถ่ายรูปเก็บไว้ให้  แต่ตอนเราไปไม่ได้สั่งซ้ำ

ที่เด่นๆน่าจะเป็นทิรามิซุอันนี้  เพราะเห็นคนถ่ายรูปเยอะมากกกก

อันนี้ไม่แน่ใจว่าอะไร

โดยรวมคือกาแฟดี๊ดี   ร้านก็เงียบๆดีค่ะ  เหมาะกับคนชอบแนว Syphon นะคะ   (Syphon จะมีกลิ่นหอมที่ชัดกว่าชงแบบDrip)

แผนที่ร้าน

TAIWAN : จิบกาแฟ@The Lobby of Simple Kaffa

The Lobby of Simple Kaffa หรือเรียกย่อๆว่า Simple Kaffa เป็นร้านกาแฟยอดฮิตของคนไต้หวันและนักท่องเที่ยว   บอกเลยว่าคอกาแฟถ้ามาไต้หวัน จะต้องมาร้านนี้ !!

ตามความเข้าใจของเรา น่าจะเรียกได้ว่าร้านมี 2 สาขา  คือ

1. The Lobby of Simple Kaffa ที่ชั้นใต้ดินของ Hotel V

2. Fujin Tree 353 Café by Simple Kaffa ย่าน  Fujin street (富錦街 อ่านว่า ฟู่ จิ่น เจีย แปลว่า ถนนฟู่จิ่น) ซึ่งถนนฟู่จิ่น ก็เป็นย่านฮิปๆ ที่วัยรุ่นหรือฮิปสเตอร์ชอบไปกัน รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยด้วย (แต่เราไม่เคยไป 555 >>> อย่างที่เคยบอกค่ะ ส่วนใหญ่เราไปไต้หวันคือไปเยี่ยมญาติ เราเลยจะไม่ค่อยไปที่ฮิตของนักท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยว)

ดังนั้นเราจะพูดถึงแค่ The Lobby of Simple Kaffa ที่ Hotel V ค่ะ

การเดินทางก็ไม่ยาก สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี Zhongxiao DunHua ออกทางออกที่ 2 เลี้ยวเข้าซอยข้างๆร้าน Zara  เดินตรงไป Hotel V จะอยู่หัวมุมด้านซ้ายของสี่แยกที่สอง (ป้ายโรงแรมอาจจะดูไม่ค่อยชัดเท่าไหร่)   เดินลงบันไดไปชั้นล่างเลยค่ะ

เวลาเปิดปิด
วันอาทิตย์-วันพฤหัส  12.30-21.30 น.
วันศกร์และเสาร์ 12.30-22.00 น.

เฟสบุคของร้าน https://www.facebook.com/SimpleKaffa/
เวบของร้าน http://www.simplekaffa.com/

ในบริเวณเดียวกันจะเป็นร้านขายเสื้อผ้ารองเท้าวัยรุ่น Multi Brand สามารถเดินทะลุถึงกันได้

ส่วนของร้าน The Lobby of Simple Kaffa จะเป็นแบบนี้ค่ะ  โต๊ะมีไม่เยอะมาก แต่ว่าสามารถนั่งที่โต๊ะสีเขียวตรงส่วน open air ได้   ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ  (แต่จะบอกว่าไม่ค่อยจะได้นั่งหรอกนะคะ เพราะว่าไต้หวันฝนตกบ่อย  แล้วพอหน้าหนาวนั่งข้างนอกก็ค่อนข้างเย็น ไม่แฮปปี้เลย)

ร้านนี้จะคนเยอะตลอด ยิ่งวันหยุดจะเยอะมาก ต้องรอคิว  วันที่ถ่ายรูปนี่คือเราไปตอนค่ำๆแล้วนะคะ แต่คนก็ยังมีเกือบเต็มร้าน

 

ร้านนี้ทำไมถึงดัง ? อันนี้เราไม่รู้  แต่เรารู้ว่าร้านเค้าได้รางวัลเพียบเลยค่ะ เป็นเหตุให้เราและคอกาแฟทั้งหลายอยากมาลอง  ถ้าสังเกต ร้าน specialty coffee หลายๆร้านในไทยก็จะมีเมล็ดของ Simple Kaffa มาขายเป็นระยะๆนะคะ

ในร้านเค้าก็โชว์ถ้วยรางวัลไว้เต็มเลย

สารพัดรางวัล แต่ที่ใหญ่สุดน่าจะเป็นถ้วยแชมป์รายการ World Barista Championship ปี 2016

อุปกรณ์ชองกาแฟก็มีขายนะคะ อันนี้เป็น Clever Dripper  เป็นที่ชงกาแฟ Filter แบบง่ายๆ ไม่ต้องมีทักษะมากก็ชงได้อร่อย ใช้ง่าย  หลายๆร้านก็มีขาย  แต่เราก็เพิ่งซื้อเจ้า Clever Dripper นี่มากจาก Simple Kaffa เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง

เมล็ดกาแฟที่วางขาย

 เมนูของที่ร้าน (อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเราถ่ายไว้นานแล้ว)  เราลงให้ดูเมนู  2 version นะคะ  เพราะครั้งแรกที่เราไป พนักงานเห็นว่าเราเป็นต่างชาติ เค้าเลยเอาเมนูภาษาอังกฤษมาให้   แต่รอบหลังๆ....หน้าตาเราดูเป็นคนไต้หวันมากขึ้นหรือไงก็ไม่รู้  เค้าเอาให้แต่เมนูภาษาจีน 555 แต่จริงๆเราก็พอ่านได้นะคะ ก็เลยไม่เคยรีเควสขอเมนูภาษาอังกฤษ

พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้นะคะ

**ที่นี่บังคับ 1 คนต้องสั่ง 1 แก้ว ตามสไตล์ร้านกาแฟที่ไต้หวัน**

อันนี้เป็นเมล็ดที่ให้เราเลือกสำหรับ slow bar นะคะ เมล็ดน่าจะมีเปลี่ยนไปบ้างตามช่วงเวลา

พูดถึงกาแฟกันก่อน  กาแฟดีค่ะ อร่อยทู้กอย่าง  แต่ราคาค่อนข้างสูง

Toffee Latte With Toasted Almond On Top แบบร้อน

Toffee Latte With Toasted Almond On Top แบบเย็น

Brown Sugar Latte (จำไม่ได้ว่าสั่งร้อนหรือเย็น แต่น่าจะเป็นร้อน)

 Latte ร้อน

แก้วนี้คือ Beer Like Coffee ซึ่งจริงๆเราว่ามันก็คือกาแฟไนโตรน่ะแหละ  แต่ที่นี่มีมานานแล้ว ตั้งแต่เมืองไทยยังไม่มีกาแฟไนโตรเลย  และครั้งแรกที่เรากินกาแฟอัดก๊าซแบบนี้ก็คือที่ The Lobby of Simple Kaffa นี่เอง  >> เมนูนี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ  ไม่ใช่เบียร์

เค้ามี 2 แบบ คือ Black Beer หรือกาแฟดำ กับ White Beer หรือกาแฟใส่นม

Black Beer เราชอบเมนู Black Beer ของที่นี่มากๆ   กินกาแฟไนโตรที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่   กาแฟเข้มและให้ความรู้สึกเหมือนกินเบียร์กาแฟจริงๆ   แก้วนี้ต้องรีบกินนะคะ กินช้าฟองหายหมด

จริงๆเรากินกาแฟ Slow bar ที่นี่ก็หลายครั้งนะคะ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปมา   ดังนั้นข้ามไปขนมเลยค่ะ



ขนมเค้าอร่อยทุกตัว แต่ Signature ของเค้าคือ Matcha Roll Cake

ให้ดูจากรูปได้เลยค่ะว่าเราสั่งบ่อยแค่ไหน เค้กเนื้อนุ่ม รสชาเขียวเข้มข้น ไม่หวานด้วย ไส้ครีมชาเขียวก็อร่อย

อย่างที่สองคือ Haft baked Castella Cake ที่ไต้หวันนิยมเจ้าเค้กแบบนี้มากๆนะคะ ฮิตมาหลายปีแล้ว หลายร้านก็มี  ตอนนี้ฮิตมาถึงเมืองไทยแล้วด้วย  มันจะเป็นเค้กเนื้อฟู หอมๆ รสน้ำผึ้งอ่อนๆ  ข้างในจะมีความครีมๆอยู่

ข้างใน

 

Tiramisu ค่ะ อร่อยมาก แต่ว่าถ้าเทียบแล้ว Matcha Roll Cake คือที่สุด  เลยไม่ค่อยได้สั่งน้อง Tiramisu

Lemon Pound Cake เค้กมะนาว  เมนูนี้เราเฉยๆค่ะ ไม่ได้ประทับใจอะไร

ร้านนี้คือกาแฟดีมาก  ขนมก็ดีมาก  อร่อยทุกอย่างทั้งกาแฟ ทั้งขนม (ถ้ามาตอนเย็นๆขนมอาจจะหมดได้นะคะ  บางครั้งอาจจะอดกิน)  หรือถ้าอยากจะซื้อเมล็ดกาแฟฝากเพื่อนฝูง  ซื้อที่นี่ก็ดีค่ะ แนะนำจริงๆ ยังเคยมีร้านกาแฟในไทยฝากเราซื้อเมล็ดจาก Simple Kaffa เลยค่ะ

 ป.ล. ห้องน้ำของร้านนี้ เป็นประตูแบบกดรหัสนะคะ  ถ้าอยากจะเข้าห้องน้ำ ต้องขอรหัสจากพนักงาน (เราคิดว่าเพราะร้านอยู่ในย่าน Shopping Street และมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ด้วย  คนเข้าคนออกเยอะ เลยกันห้องน้ำไว้ให้ลูกค้าเท่านั้น)

แผนที่ร้าน