ร้านนี้เรารู้จักจากการเดินผ่านในช่วงเช้าวันหนึ่งค่ะ เป็นร้านเล็กๆ เห็นคนต่อแถวซื้อกาแฟ ก็เลยเกิดความสนใจ ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม เลยรู้ว่าร้านมีหลายสาขามากมาย และกาแฟก็ราคาไม่สูงมาก เพราะ concept ของร้านคือเป็นกาแฟราคาไม่แพงและทุกคนประทับใจ และร้านนี้เน้นเรื่อง Sustainable Development หรือการพัฒนาอย่างยั่งยืน อ้อ.... ร้านนี้ได้รางวัลที่ 4 ของการแข่งขันบาริสต้าไต้หวันปี 2011 ด้วยนะคะ
โลโก้ของร้านก็จะเป็นรูปเทพธิดาที่บนหัวประดับด้วยดอกกาแฟและเมล็ดกาแฟ
บรรยากาศในร้าน (รูปจากหลายๆสาขารวมกันนะคะ) สามารถดูสาขาได้จากเวบไซต์ของร้านค่ะ
เมนูของร้าน.....ขออภัยจริงๆ ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ ลองดูเมนูจากเวบไซต์ของทางร้านไปก่อนนะคะ
http://www.louisacoffee.com.tw/menu.html ที่ร้านจะมีพวกแซนวิชด้วยนะคะ แต่เรายังไม่เคยลองชิมเลย ชิมแต่กาแฟ
ภาพกาแฟของร้านค่ะ (เราถ่ายมาจากหลายรอบปนๆกัน เลยจำไม่ได้ว่าแก้วไหนเป็นอะไร)
แก้วนี้เป็นกาแฟลาเต้เย็น เค้าก็จะซีลพลาสติกมาให้เหมือนพวกชานมไข่มุก ตามสไตล์ไต้หวัน
มีขายเมล็ดกาแฟด้วยนะคะ มีมาจากหลายๆที่ ราคาก็ตามรูปเลยค่ะ ไม่แพง
กาแฟของทางร้านก็ใช้ได้นะคะ ไม่ขมมาก ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง สามารถหาได้ทั่วไปที่ไต้หวันเลย ส่วนตัวเรา เราชอบทาน Orange peel Latte ค่ะ เป็นลาเต้ที่มีกลิ่นผิวส้มอ่อนๆ หอมและแปลกดีค่ะ จากการสังเกตของเรา เราว่าคนไต้หวันนิยมกาแฟที่มีส่วนผสมอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปด้วย ลักษณะเป็นเครื่องดื่มกาแฟ ไม่ใช่แค่กาแฟคาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ ธรรมดา เหมือนที่เมืองไทย กาแฟเค้าจะมีส่วนผสมพิเศษที่มีเอกลักษณ์ (อย่างกาแฟผิวส้มที่เราชอบดื่ม) อีกเมนูนึงของร้านนี้ที่เราอยากลองแต่ยังไม่ได้ลองคือ กาแฟ matcha latte ค่ะ กาแฟผสมชาเขียว ฟังดูน่าสนใจมั้ยคะ ไว้ถ้าได้ลองแล้วจะมาเล่าให้ฟังค่ะ ว่าเป็นยังไง
No comments:
Post a Comment